Quacquarelli Symonds หรือ QS ได้ประกาศผลการจัดอันดับเมืองน่าเรียน หรือ “QS Best Student Cities 2016” โดยมีเกณฑ์การประเมินประจำปี 2016 5 ข้อดังต่อไปนี้
1. University rankings 100 คะแนน
2. Student Mix 100 คะแนน
3. Desirability 100 คะแนน
4. Employer activity 100 คะแนน
5. Affordability 100 คะแนน
เราไปชมกันดีกว่าว่าทั้ง 10 อันดับแรกของเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษาในปี 2016 จะมีเมืองไหนบ้างครับ
อันดับ 1 : ปารีส (Paris) ประเทศฝรั่งเศส
อันดับหนึ่งเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา ยังคงเป็น “นครปารีส” ดินแดนแห่งแฟชั่น น้ำหอม และหอไอเฟลอันลือเรื่อง แชมป์เก่าหลายสมัยที่ยังไม่มีเมืองไหนโค่นได้ โดยในปี 2016 ปารีสได้ไปทั้งหมด 404 คะแนน มีจำนวนมหาวิทยาลัยที่ถูกจัดอันดับโดย QS ทั้งสิ้น 18 แห่ง และมหาวิทยาลัย “Ecole normale supérieure” ติดอันดับโลกสูงสุดในอันดับที่ 23 และยังเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก (Global Liveability Ranking) อันดับที่ 29 เมื่อปี 2015 อีกด้วย
อันดับ 2 : เมลเบิร์น (Melbourne) ประเทศออสเตรเลีย
เมืองใหญ่อันดับสอง ของประเทศออสเตรเลีย รองจากนครซิดนีย์ ในปี 2016 ยังคงอยู่ในอันดับที่ 2 จากปี 2015 ด้วยคะแนน 398 เมลเบิร์นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการศึกษา และเมืองแห่งศิลปะ บรรยากาศดี มีชายหาดและแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนมากมาย อันดับ 1 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก (Global Liveability Ranking) ประจำปี 2015 และเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกอันดับที่ 185 นั่นเอง
อันดับ 3 : โตเกียว (Tokyo) ประเทศญี่ปุ่น
อันดับ 3 ในปีนี้ตกเป็นของ “เมืองโตเกียว” จากประเทศญี่ปุ่น ที่ไต่อันดับขึ้นมาจากปีที่แล้วในอันดับที่ 7 ขึ้นมาสูงสุดในอันดับที่ 3 มีมหาวิทยาลัยติดอันดับโลกจากการจัดอันดับโดย QS ทั้งหมด 13 แห่ง “University of Tokyo” ติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก อันดับที่ 39 และยังเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอันดับที่ 15 แม้จะเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงติดอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ถ้ารวมกับหลายองค์ประกอบแล้วโตเกียวยังเป็นเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา
อันดับ 4 : ซิดนีย์ (Sydney) ประเทศออสเตรเลีย
เมืองที่สองสำหรับประเทศออสเตรเลียที่สามารถคงอันดับเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา ในปี 2016 และยังเป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกอันดับที่ 7 เมืองยอดฮิตที่เหล่านักเรียนนักศึกษานิยมไปเรียนต่อมากที่สุดในโลกอยู่ในอันดับที่ 3 รองจากอเมริกา และอังกฤษ ประเทศออสเตรเลียยังมีคะแนนจากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International score) เมืองที่มีการคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลกอยู่ในอันดับที่ 9
อันดับ 5 : ลอนดอน (London) ประเทศอังกฤษ
เมืองลอนดอน ในปี 2016 ตกลงมาจากอันดับที่ 3 จากปี 2015 มาอยู่ในอันดับที่ 5 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา ได้คะแนนรวม 384 คะแนน มีมหาวิทยาลัยที่ติดอยู่ในอันดับโลกมากที่สุดถึง 19 แห่ง “UCL (University College London)” ติดอยู่ในอันดับที่ 7 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก และเป็นประเทศที่มีการคอรัปชั่นน้อยที่สุดอยู่ในอันดับที่ 14 ของโลก
อันดับ 6 : สิงคโปร์ (Singapore)
ประเทศสิงคโปร์กลับเข้ามาสู่ Top10 อีกครั้งในปี 2016 หลังจากที่หลุดตำแหน่งไปเมื่อปี 2015 มีมหาวิทยาลัยที่ติดอยู่ในการจัดอันดับโดย QS เพียง 3 แห่ง และ “National University of Singapore” ติดอยู่ในอันดับที่ 12 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก 2016 นอกจากนี้ประเทศสิงคโปร์ยังมีความโดดเด่นในด้านเมืองที่มีการคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลกอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลก และยังเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยสูงอันดับที่ 11 ของโลกอีกด้วย
อันดับ 7 : มอนทรีออล (Montréal) ประเทศแคนาดา
มอนทรีออล จากประเทศแคนาดา เมืองสวย บรรยากาศดี การศึกษาเยี่ยม อันดับที่ 14 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดโลก มีคะแนนโดดเด่นในเรื่องของความหลากหลายทางเชื้อชาติของนักศึกษาต่างชาติ ทำให้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูง และมอนทรีออลยังเป็นเมืองใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ที่มีประชากรพูดภาษาฝรั่งเศสมากที่สุดในโลก รองจากปารีส
อันดับ 8 : ฮ่องกง (Hong Kong)
ฮ่องกง เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก และมีคะแนน ดัชนีค่าครองชีพของเมอร์เซอร์ (Mercer cost of living) เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก อยู่ในอันดับที่ 2 และยังมีความโดดเด่นในเรื่องของความปลอดภัยทุกคนเคารพกฎหมาย อยู่ในอันดับที่ 21 เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก และเป็นเมืองที่มีการคอรัปชั่นน้อยที่สุดอันดับที่ 15 ของโลกอีกด้วย
อันดับ 9 : เบอร์ลิน (Berlin) ประเทศเยอรมนี
เมืองหลวงของประเทศเยอรมนี หลังจากที่หลุดจากอันดับ Top10 ของโลกไปเมื่อปี 2014 ครั้งนี้เบอร์ลินกลับมาอีกครั้งในอันดับที่ 9 โดยมีมหาวิทยาลัยติดอันดับโลกด้วยกันทั้งหมด 3 แห่ง และยังเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอันดับที่ 20 และเป็นเมืองที่มีการคอรัปชั่นน้อยที่สุดติดอันดับ 12 ของโลกอีกด้วย สิ่งสำคัญที่ช่วยในการส่งเสริมให้เบอร์ลินกลายเป็นเมืองแห่งการศึกษาก็คือ มหาวิทยาลัยของรัฐบาลส่วนใหญ่จะไม่เก็บค่าเล่าเรียน ทั้งนักศึกษาในท้องถิ่น และนักศึกษาชาวต่างชาติ (ยกเว้นหลักสูตรปริญญาโทบางส่วน)
อันดับ 10 : โซล (Seoul) ประเทศเกาหลีใต้
อีกหนึ่งเมืองจากเอเชียที่ติดอยู่ในอันดับ Top10 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา ประจำปี 2106 “กรุงโซล” จากประเทศเกาหลีใต้ ที่ยังคงตำแหน่งเดิมจากปี 2015 โดยมีมหาวิทยาลัยที่ติดอยู่ในอันดับโลกทั้งหมด 18 แห่ง มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดคือ “Seoul National University” อยู่ในอันดับที่ 36 ของโลก แต่โซลก็ยังคงเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูงติดอยู่ในอันดับที่ 8 ของโลกเลยทีเดียว
ข้อมูลจาก: manager