ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียนหรือวัยทำงาน พอร์ตโฟลิโอล้วนมีส่วนสำคัญในการสร้างความประทับใจ โดยเฉพาะในการสมัครเข้าร่วมโครงการ ทุนการศึกษา หรือแม้แต่การสมัครงานในบริษัทส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม เราเข้าใจดีว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีทักษะด้านการออกแบบ หรือบางครั้งก็อาจมีช่วงเวลาที่ “คิดไม่ออก” ว่าควรใส่อะไรลงไปในพอร์ตของเราบ้าง ควรออกแบบยังไงให้ดูน่าสนใจ สะดุดตาแต่ไม่รกจนเกินไป หรือปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ด้วยเหตุนี้เราจึงได้คัดสรรจัดหา 10 เว็บไซต์ตัวช่วยที่จะทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์พอร์ตโฟลิโอออนไลน์ในสไตล์ที่ชื่นชอบได้แบบง่ายๆ แถมใช้งานได้ฟรี! ที่สำคัญยังสามารถลงผลงานเพื่อสร้างเป็นรายได้ได้อีกด้วย
มาดูกันเลยค่ะ :D
เว็บไซต์สร้างพอร์ตโฟลิโอที่เหมะสำหรับนักเขียนอิสระ
1. Journo Portfolio
มีจุดเด่นที่ดีไซน์อันทันสมัย โฉบเฉี่ยว และดูเป็นมืออาชีพ มีธีมให้คุณเลือกใช้งานได้มากถึง 9 แบบ ทั้งยังทำงานร่วมกับ Google Analytics หรือใช้เครื่องมือวิเคราะห์ในตัวของ Journo เพื่อวัดผู้เยี่ยมชมทางออนไลน์
ข้อดี:
– แสดงการแก้ไขแบบเรียลไทม์
– ทำงานร่วมกับ Google Analytics
– มีธีมที่สร้างไว้ล่วงหน้า สามารถเลือกใช้ได้
– เหมาะกับการใช้งานบนมือถือ
ข้อเสีย:
– สามารถใช้ได้ฟรีสูงสุดแค่ 10 งาน
– หากต้องการปลดล็อกใช้งานได้ไม่จำกัดต้องจ่ายค่าธรรมเนียม
2. Muck Rack
เว็บไซต์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการใช้งานโดยหลังจากสร้างพอร์ตโฟลิโอของคุณแล้วสามารถกลับมาแก้ไขในภายหลังได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังมีระบบแจ้งเตือนข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทหรือองค์กรที่น่าสนใจเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้สมัครงานอีกด้วย
ข้อดี:
– เหมาะสำหรับสายนักข่าว
– มีระบบอัปเดตโปรไฟล์อัตโนมัติ การแจ้งเตือนข่าวสาร และบทความสำหรับติดตามเรื่องที่คุณสนใจ
– ใช้งานง่าย
ข้อเสีย:
– อาจมีปัญหาเรื่องการจัดรูปแบบบางอย่างเมื่ออัปโหลดเนื้อหาจาก Excel
– ไม่มีระบบเครื่องมือการรายงานและการตรวจสอบอื่นๆ
3. WordPress.com
เป็นแพลตฟอร์มที่คุ้นหน้าคุ้นตากันมากที่สุด นอกจากเนื้อหาหลักแล้วคุณยังสามารถสร้างบล็อกที่มีหน้าพอร์ตโฟลิโอแยกต่างหากได้ฟรี แถมยังมีธีมฟรีมากกว่า 100 ธีมเพื่อสร้างบล็อกที่ไม่ซ้ำใครได้อีกด้วย
ข้อดี:
– เหมาะสำหรับบล็อกเกอร์
– สร้างหน้าพอร์ตแยกจากบล็อกได้
– มีธีมฟรีมากกว่า 100 แบบ
– มีใบรับรอง SSL และคุณสมบัติ JetPack เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์
ข้อเสีย:
– แบบใช้งานฟรีจะพ่วงมาด้วยการติดโฆษณาทางออนไลน์
– พื้นที่เก็บข้อมูลจำกัดที่ 3 GB
เว็บไซต์สร้างพอร์ตโฟลิโอที่เหมะสำหรับนักออกแบบ
4. Behance
หนึ่งในเว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอออนไลน์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด ช่วยให้คุณจัดระเบียบงานต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งยังเชื่อมโยงกับบัญชีโซเชียลมีเดียของคุณได้ด้วย
ข้อดี:
– เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีไอเดียในการออกแบบงานสร้างสรรค์
– สามารถรับข้อเสนอแนะจากผู้ติดตามได้
– เชื่อมต่อกับบัญชีโซเชียลมีเดีย ช่วยให้เห็นถึงความสนใจที่ผู้คนมีต่อคุณ
ข้อเสีย:
– แบบใช้งานฟรีมีตัวเลือกการออกแบบและฟีเจอร์ที่จำกัด
– การแสดงมุมมองและการกดถูกใจอาจกลายเป็นความเสี่ยงที่จะถูกปัดตกหากไม่ได้รับความนิยม
5. Adobe Portfolio
หากคุณมีสมาชิก Creative Cloud อยู่แล้ว Adobe Portfolio เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการสร้างเว็บไซต์หน้าเดียวหรือแกลเลอรีงานทั้งหมด
ด้วย Adobe Portfolio คุณสามารถตั้งค่าพอร์ตโฟลิโอที่ทันสมัยและปรับแต่งได้ในเวลาไม่กี่นาที แถมยังสามารถใช้ร่วมกับ Behance และ Adobe Lightroom เพื่อนำเข้างานที่ทำไว้แล้วมาปรับใช้ได้
ข้อดี:
– สามารถสร้างผลงานได้ทั้งแบบเว็บไซต์หลายหน้าหรือหน้าเดียว
– มีธีมให้เลือกใช้หลากหลาย
– ทำงานร่วมกับ Behance และ Adobe Lightroom ได้
ข้อเสีย:
– สามารถใช้ได้ฟรี กรณีเป็นสมาชิกของ Creative Cloud เท่านั้น
6. Crevado
หนึ่งในเว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอฟรีที่ง่ายที่สุด มีเครื่องมือหลากหลายให้สามารถใช้งานและอัปโหลดงานอื่นๆ ของคุณเพื่อจัดเรียงใหม่ได้ ออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานบนโทรศัพท์หรือแท็ปเล็ตได้ด้วย
ข้อดี:
– ใช้งานง่าย สามารถลากและวางได้
– มีระบบการออกแบบที่ตอบสนองโฮสติ้งที่ปลอดภัยและการรับรอง SSL
– สามารถใช้งานร่วมกับ PayPal และ Fotomoto ช่วยให้คุณขายงานได้
ข้อเสีย:
– การใช้งานฟรีจะไม่สามารถลบลายน้ำหรือลิงก์ Crevado ในส่วนท้ายของเว็บไซต์ได้
7. Pixpa
แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ DIY แบบครบวงจรที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถสร้างผลงานได้อย่างมืออาชีพ เหมาะทั้งสำหรับนักเขียนอิสระ และเจ้าของธุรกิจ มีฟังก์ชั่นหลากหลายแม้ว่าคุณจะไม่รู้เรื่องการเขียนโค้ดเลยแม้แต่น้อย
ข้อดี:
– ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
– มีเครื่องมือ SEO ที่กว้างขวางช่วยให้คุณเพิ่มแท็กและข้อมูลที่กำหนดเองได้
– มีระบบความปลอดภัย SSL ในทุกเว็บไซต์
– สามารถติดต่อกับผู้อื่นได้ทั้งผ่านทางอีเมลและแชทแบบเรียลไทม์
ข้อเสีย:
– กำหนดชื่อโดเมนเองไม่ได้
– ไม่มีบริการฟรีหลายฟังก์ชัน
เว็บไซต์สร้างพอร์ตโฟลิโอที่เหมาะสำหรับช่างภาพ
8. Flickr
เว็บไซตืชื่อดังที่เป็นคลังภาพถ่ายนับหลายพันล้านรูปและมีสมาชิกเข้ามาร่วมแบ่งปันผลงานจำนวนมากในแต่ละวัน
ข้อดี:
– เหมาะสำหรับช่างภาพมือใหม่
– เป็ุนชุมชนช่างภาพที่ยอดเยี่ยม สามารถติดต่อกับผู้อื่นและค้นหาแรงบันดาลใจได้
ข้อเสีย:
– จำกัดรูปแบบรูปภาพ GIF, PNG และ JPEG เท่านั้น
– จำกัด 1,000 รูปภาพในการใช้บริการฟรี
– ฟังก์ชั่นการทำพอร์ตไม่ค่อยมี
9. Portfoliobox
Portfoliobox คือเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ออกแบบมาสำหรับช่างภาพโดยเฉพาะ และเป็นตัวเลือกที่ดีในการสร้างแกลเลอรีที่ดูเป็นมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมีลิงก์อีคอมเมิร์ซที่ให้คุณขายภาพพิมพ์หรืองานศิลปะอื่นๆ ได้โดยตรงจากเว็บไซต์ (โดยไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น)
ข้อดี:
– เหมาะสำหรับช่างภาพในทุกระดับ
– สามารถขายผลงานได้โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน
– ใช้รูปแบบที่แตกต่างกันได้ในทุกหน้า
ข้อเสีย:
– ไม่มีฟังก์ชันการลากและวาง
– ตัวเลือกการปรับแต่งมีจำกัดสำหรับอีคอมเมิร์ซ
10. YouPic
เว็บไซต์ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถลงผลงาน ซื้อขายภาพถ่าย รวมทั้งสร้างโปรไฟล์เพื่อให้เป็นที่รู้จักได้อย่างง่ายดาย
ข้อดี:
– ใช้งานได้ง่าย เป็นแหล่งรวมช่างภาพที่มีชื่อเสียง
– สามารถขายผลงานได้โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน
– สามารถติดลิขสิทธิ์ภาพถ่ายบน blockchain ได้
ข้อเสีย:
– ต้องอัปเกรดเป็นสมาชิกระดับพรีเมียมก่อนจึงจะสามารถใช้ปรโมตงานของคุณได้
บอกเลยว่านอกจากจะใช้งานได้ฟรี และไม่ยากอย่างที่คิดแล้ว เว็บไซต์เหล่านี้ยังถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะเปิดโอกาสดีๆ มาให้กับคุณอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นงานใหม่ โอกาสมีชื่อเสียง หรือประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินก็ตาม
ใครสนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ตามลิงก์ที่แนบไว้นะคะ :>
ที่มา: Hubspot