สวีเดนเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านการศึกษา มีสถาบันถึง 3 แห่งที่ติดร้อยอันดับแรกของโลกในปี 2010 ซึ่งได้รับการจัดอันดับทางวิชาการของมหาวิทยาลัยโลก
การศึกษาในระดับอุดมศึกษาของสวีเดนมีทั้งหมด 3 ระดับ คือ ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกหรือการวิจัย ในส่วนนี้รัฐบาลของสวีเดนมีนโยบายมอบทุนการศึกษาประมาณ 80% ให้กับนักศึกษาอยู่เสมอ
ทำไมใครๆ ก็อยากมาเรียนต่อที่สวีเดน?:
ที่นี่มีหลักสูตรระดับปริญญาโทกว่า 600 โปรแกรมซึ่งสอนเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้มีนักศึกษาต่างชาติกว่า 30,000 คนกำลังศึกษาอยู่ในขณะนี้
มหาวิทยาลัยของสวีเดนมีแนวทางส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ความคิดริเริ่มส่วนบุคคล และการคิดอย่างอิสระ จึงได้จัดให้มีสภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่ผ่อนคลาย พร้อมความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการระหว่างนักศึกษา และอาจารย์
สำหรับนักศึกษา มักได้รับมอบหมายให้ทำงานเป็นกลุ่มเล็กๆ และใช้เวลากับอาจารย์น้อยลง นอกจากนี้ในระดับปริญญาโทหลายหลักสูตรยังเป็นพันธมิตรกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อมอบประสบการณ์การทำงานจริงในโลก
มหาวิทยาลัย:
สวีเดนมีมหาวิทยาลัยของรัฐ 14 แห่ง วิทยาลัยรัฐ 20 แห่ง และสถาบันอิสระอีกหลายแห่ง เช่น Stockholm School of Economics รวมถึงมีโรงเรียนเฉพาะหลายแห่งเช่นกัน ได้แก่ สถาบันศิลปะและสถาบันเทคโนโลยี
ค่าเล่าเรียน:
ราวปี 2011 มหาวิทยาลัยในสวีเดนเริ่มเก็บค่าเล่าเรียนจากนักศึกษาต่างชาติประมาณ 80,000 SEK ต่อปี (ประมาณ 255,000 บาท) แล้วแต่หลักสูตร หากเป็นระดับปริญญาโทในสาขาศิลปะอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่านี้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสวีเดนได้จัดตั้งโครงการทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาที่ต้องการความช่วยเหลือด้านการเงิน สำหรับนักศึกษาจากประเทศกำลังพัฒนา ทุนสนับสนุนจะครอบคลุมค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพ ในขณะที่นักศึกษาต่างชาติอื่นๆ จะครอบคลุมเฉพาะค่าเล่าเรียน
ระยะเวลาของหลักสูตร:
หนึ่งปีการศึกษาแบบเต็มเวลาในสวีเดนจะเทียบเท่ากับ 60 ชั่วโมงหน่วยกิต สามารถเทียบโอนได้ในเครดิตยุโรป (ECTS) แบ่งออกเป็น 2 ระบบสำหรับปริญญาโทคือ
– Masterexamen : ใช้เวลา 2 ปี และได้รับ 120 ECTS เป็นคุณวุฒิปริญญาที่สามารถได้รับจากมหาวิทยาลัยและสถาบันการวิจัยเท่านั้น
– Magisterexamen : ใช้เวลาเพียง 1 ปีและได้รับ 60 ECTS สามารถรับปริญญาจากสถาบันอุดมศึกษาได้ทุกแห่ง
ระยะเวลาของหลักสูตรขึ้นอยู่กับสาขาวิชาและสถาบันที่เปิดสอนหลักสูตรนั้น
ปีการศึกษา:
ปีการศึกษาในสวีเดนจะแบ่งออกเป็น 2 ภาคเรียน ระยะเวลายาวนานประมาณ 20 สัปดาห์
– ภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วงเริ่มต้นตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมถึงกลางเดือนมกราคม
– ภาคการศึกษาฤดูใบไม้ผลิเริ่มจากกลางเดือนมกราคมถึงมิถุนายน
โอกาสหลังจบการศึกษา:
ภาคธุรกิจให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ ประสบการณ์การทำงานจริง และทักษะการทำงานแบบทีมที่บัณฑิตของสถาบันสวีเดนจำเป็นต้องมี
นักเรียนต่างชาติสามารถอยู่ในสวีเดนหลังจากสำเร็จการศึกษาได้ หากพวกเขาสามารถหางานได้ก่อนหมดวีซ่า โดยเฉพาะในสาขาที่มีการขาดแคลนแรงงาน เช่น วิศวกรรม และการบัญชี
ข้อกำหนดในการขอวีซ่า:
นักศึกษานอกสหภาพยุโรป / EEA ส่วนใหญ่ที่วางแผนจะอยู่นานกว่าสามเดือนจะต้องได้รับใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่ก่อนที่จะมาถึงสวีเดน ใบอนุญาตผู้พำนักมีค่าใช้จ่าย 1,000 SEK (ประมาณ 3,000 บาท) และไม่สามารถขอคืนได้
นอกจากนี้นักศึกษาไม่ควรสมัครขอใบอนุญาตจนกว่าพวกเขาจะได้รับการตอบรับเข้าการศึกษาแบบเต็มเวลาและจ่ายเงินสำหรับภาคเรียนแรกเรียบร้อยแล้ว นักศึกษาที่วางแผนเข้าประเทศระยะเวลาน้อยกว่าสามเดือนต้องใช้วีซ่าเช่นกัน ข้อกำหนดจะเฉพาะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ
นักศึกษานอกสหภาพยุโรป / EEA ที่ไม่ใช่ชาวยุโรปอาจอาศัยอยู่ในสวีเดนเป็นเวลานานกว่าสามเดือนได้โดยไม่มีใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่ แต่ต้องลงทะเบียนกับคณะกรรมการการย้ายถิ่นภายในสามเดือนหลังจากเดินทางมาถึงและแสดงหลักฐานการศึกษาระดับอุดมศึกษา ประกันสุขภาพและค่าครองชีพ
ประกันสุขภาพ:
นักศึกษาต่างชาติจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพของสวีเดนหากพวกเขาพำนักอยู่ในประเทศสวีเดนนานกว่าหนึ่งปีเพื่อการศึกษา โดยต้องลงทะเบียนที่สำนักงานสรรพากรในพื้นที่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนในการดำเนินการ
ส่วนนักศึกษาต่างชาติที่วางแผนจะศึกษาน้อยกว่าหนึ่งปีต้องจัดเตรียมประกันสุขภาพของตนเองมาให้เรียบร้อย อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยหลายแห่งมีประกันสุขภาพราคาถูกสำหรับนักศึกษาให้เลือกสรร
ข้อควรรู้ :
– นักศึกษาต่างชาติที่ต้องการใบอนุญาตมีถิ่นพำนักควรวางแผนการพักอาศัยล่วงหน้าให้ดี เนื่องจากกระบวนการอาจใช้เวลานานมาก
– แม้ว่าสวีเดนจะเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป แต่ภายในประเทศก็ยังคงใช้สกุลเงินโครน (SEK) บัตรเครดิตยอดนิยมเช่น Visa, MasterCard และ Eurocard ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะทำให้ผู้ที่กำลังเตรียมตัว วางแผนการล่วงหน้าได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้นนะ :)
ที่มา: masterstudies