การทำความเข้าใจสภาพผิวของตัวเองนั้นเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ และมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการค้นหาว่าเราควรดูแลผิวของเราอย่างไรดี
เพราะแต่ละสภาพผิวจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากสกินแคร์ในแต่ละสูตรที่แตกต่างกันไป รวมไปถึงคลีนซิ่ง และเครื่องสำอางด้วยเช่นกัน
แม้ว่าผิวของทุกคนจะไม่เหมือนกัน แต่หลักๆ แล้วผิวของคนเรานั้นมีอยู่ถึง 5 ประเภทด้วยกัน นั่นคือผิวมัน ผิวธรรมดา ผิวผสม ผิวแห้ง และผิวบอบบาง
การเข้าใจสภาพผิวของตนเองจะทำให้ช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างเหมาะสม มาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันเลยว่าสภาพผิวของคุณมีลักษณะอย่างไร
#1 ผิวมัน
คือผิวที่มีน้ำมันส่วนเกินทั่วบริเวณใบหน้า มักพบได้บ่อยบริเวณหน้าผาก จมูก และคางหรือที่เราเรียกกันว่าทีโซนนั่นเอง
ผิวมันมีแนวโน้มที่จะเป็นประกาย เงางาม และมันเยิ้ม มักจะทำให้เกิดสิวและริ้วรอยต่างๆ ได้ง่าย
#2 ผิวธรรมดา
คือผิวที่มีความสมดุล ไม่แห้งเกินไปหรือมันมากเกินไป ผู้ที่มีผิวธรรมดามักจะไม่เสี่ยงต่อการเป็นสิวหรือเป็นผื่นคัน อีกทั้งยังมีผิวบริเวณที่สมดุลด้วยเช่นกัน
#3 ผิวผสม
คือผิวที่มีทั้งพื้นที่ที่แห้งและมัน เช่น จะพบผิวมันได้บริเวณหน้าผาก จมูก และแก้ม และจะพบผิวแห้งหรือผิวปกติได้ที่บริเวณแก้มหรือคาง
#4 ผิวแห้ง
จะให้ความรู้สึกที่แห้ง หยาบกร้าน มีขุยหรือรู้สึกคัน โดยรวมๆ คือผิวจะมีความรู้สึกแห้งเหมือนขาดน้ำ จึงต้องการความชุ่มชื้นมากขึ้นนั่นเอง
#5 ผิวบอบบาง
ผิวลักษณะนี้อาจไม่มีอาการที่มองเห็นได้ชัด หรืออาจมีอาการที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยส่วนมากจะพบจุดสีแดง และรู้สึกว่าผิวแห้งอย่างรู้สึกได้
อย่างไรก็ตามผิวบอบบางมักจะไม่แสดงสัญญาณหรืออาการที่แน่ชัด แต่มักจะให้ความรู้สึกไม่สบายบริเวณผิวหน้ามากกว่า
รู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมสังเกตผิวของตัวเองแล้วเลือกใช้สกินแคร์ และเครื่องสำอางต่างๆ ให้เหมาะกับผิว เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การมีผิวดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งเลยนะจะบอกให้ ??
ที่มา: kiehls