โลกของเรามีอายุหลายร้อยล้านปี แน่นอนว่าระยะเวลาที่ยาวนานในการดำรงชีวิตอยู่นี้เองที่ทำให้โลกได้พบเจอรวมถึงสร้างปรากฎการณ์แปลกๆ มากมาย
หลายๆ อย่างที่โลกได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ทั้งสวยงาม ลึกลับ และน่าค้นหา แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่าสถานที่แปลกประหลาดเหล่านี้อยู่บนโลกของเรานี่เอง!
จะมีที่ไหนบ้างเชิญรับชมทั้ง 10 อันดับกันได้เลย
#10 Vinicunca Rainbow Mountain, ประเทศเปรู
ภูเขาสีรุ้งที่ความสวยนั้นช่างคุ้มค่า ควรไปให้เห็นกับตาสักครั้ง เวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวชมคือราวเดือนสิงหาคม เพราะเป็นฤดูแล้งที่สีสันจะสดใสที่สุด
#9 Giant Crystal Cave, ประเทศเม็กซิโก
เหมือง Naica คือที่ตั้งของถ้ำคริสตัลยักษ์แห่งนี้ ราวกับหลุดมาจากวิดีโอเกมหรือโลกแห่งอนาคต มันมีอายุราว 500,000 ปีเลยล่ะ
#8 Blood Falls, แอนตาร์กติกา
ถือเป็นสถานที่ที่น่าขนลุกแต่กลับดูสวยงามในเวลาเดียวกัน น้ำสีแดงราวกับเลือดได้ไหลผ่านน้ำตก โดยสีแดงนั้นมาจากเหล็กออกซิไดซ์ สามารถเที่ยวชมได้โดยการจองเที่ยวบินไปยัง Taylor Valley
#7 Jellyfish Lake, ประเทศปาเลา
เกาะ Eil Malk นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบน้ำเค็ม และมีเอกลักษณ์คือแมงกะพรุนที่สามารถมองเห็นได้อย่างง่ายดาย
#6 Caño Cristales, ประเทศโคลอมเบีย
รู้จักกันดีในชื่อวว่า“River of Five Colors” หรือ “Liquid Rainbow” เป็นแม่น้ำหลายสีที่ถือว่าสวยที่สุดในโลก มันเป็นเปลี่ยนสีแดงในฤดูร้อนเพราะพืชชนิดพิเศษในแถบนั้นนั่นเอง น่าพิศวงจริงๆ!
#5 Tunnel Of Love, ประเทศยูเครน
อุโมงค์นี้ปกคลุมด้วยใบไม้เกือบทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟเก่า ตั้งอยู่ใกล้เมือง Klevan ถือเป็นสถานที่ที่สวยงามและมีเสน่ห์แห่งหนึ่งเลยล่ะ
#4 Deadvlei, ประเทศนามิเบีย
Deadvlei สามารถแปลได้ว่า ‘บึงที่ตายแล้ว’ อย่างที่เห็นว่ามันเป็นโอเอซิสที่แห้งแล้ง เนื่องจากการขาดน้ำ รากของต้นไม้จึงออกมาจากพื้นดิน จึงกลายเป็นสถานที่สวยๆ ล้อมรอบไปด้วยเนินทรายสีส้ม สวยสุดลูกหูลูกตา
#3 Spotted Lake Khiluk, รัฐบริติชโคลัมเบีย
ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Osoyoos เป็นทะเลสาบที่มีแร่ธาตุมากที่สุดในโลก จึงทำให้เกิดสระน้ำเล็กๆ กว่า 365 แห่งแยกออกจากกันจนดูเหมือนจุดเล็กๆ ในทะเลสาบ
#2 Die Rakotzbrücke, ประเทศเยอรมนี
สะพานแห่งตั้งอยู่ที่ Gablenz เป็นสะพานที่ใช้เงาสะท้อนจากน้ำแสดงเห็นถึงความงามที่ไม่ธรรมดา เกิดเป็นวงกลมที่ลึกลับและน่าพิศวง มันถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 บางคนถึงกับเรียกมันว่า Devil’s Bridge
#1 Salar de Uyuni, ประเทศโบลิเวีย
ทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก จนเหมือนกับกระจกธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่สุดๆ โดยสามารถมองเห็นทิวทัศน์สวยๆ นี้ได้จากเกาะ Incahuasi เป็นอีกหนึ่งร่องรอยของทะเลสาบยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
หากถูกอกถูกใจที่ใด ลองหาโอกาสตีตั๋วไปเที่ยวชมให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้งให้ได้! ไม่แน่ว่าในอนาคต สถานที่เหล่านี้อาจจางหายไปตามกาลเวลาก็ได้นะ
ที่มา: worldatlas