เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 1997 ได้สร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลก เมื่อรถที่เจ้าหญิงไดอาน่านั่งขณะหลบหนีปาปารัสซี่ได้เกิดอุบัติเหตุและทำให้เธอจากโลกนี้ไปด้วยวัยเพียง 36 ปี
เจ้าหญิงไดอาน่ากลายเป็นที่รู้จักของผู้คนครั้งเเรกในวัย 20 ปี เมื่อเธอเข้าพิธีสมรสกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฏราชกุมารแห่งราชวงศ์วินเซอร์
แม้ว่าท้ายที่สุด ทั้งคู่จะแยกทางกัน แต่ไดอาน่า ยังคงได้รับการขนานนามว่าเป็นเจ้าหญิงที่ครองหัวใจของปวงชน เธอเป็นตัวแทนแฟชั่นของสาวสมัยใหม่ มีสไตล์โดดเด่นที่สร้างแรงบันดาลใจ และทุกกิจการที่เธอทำล้วนได้รับการยกย่อง
นี่คือส่วนหนึ่งของภาพในอดีตที่จะทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นหวนรำลึก และเข้าใจได้ว่า เพราะเหตุใด นายกรัฐมนตรี Tony Blair แห่งสหราชอาณาจักร จึงยกย่องเธอว่าเป็น “เจ้าหญิงของปวงชน”
ไดอาน่า ฟรานเซส สเปนเซอร์ เกิดเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1961 ในตระกูลขุนนางอังกฤษ พี่ชายของเธอ เอิร์ลสเปนเซอร์กล่าวคำระลึกว่า “เธอเป็น ‘ผู้กล้าหาญอย่างน่าเหลือเชื่อ’ แม้จะเป็นเด็กสาวก็ตาม”
สมัยเรียน ไดอาน่าได้รับเกรด 0 ทุกวิชาถึง 2 ครั้ง แต่เธอรู้ว่าเธอมีสิ่งสำคัญกว่ารอให้ทำอยู่ และเรื่องนี้เธอได้กล่าวให้สัมภาษณ์ ซึ่งอยู่ในสารคดีชีวิตของเธอ
ก่อนแต่งงาน เธอทำงานพาร์ทไทม์เป็นครูอนุบาลในเขต Pimlico ของลอนดอน
เธอพบเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ในปี 1977 เป็นครั้งแรก ขณะอายุได้ 16 ปี และเจ้าชายกำลังออกเดทกับพี่สาวของเธอในเวลานั้น ความรักของพวกเขาเริ่มต้น 3 ปีหลังจากนั้น เมื่อไดอานาไปดูชาร์ลส์เล่นโปโลที่ปราสาทบัลมอรัล
พิธีแต่งงานที่สวยงามราวกับเทพนิยายที่หรูหราของพวกเขาได้รับความสนใจอย่างมากจากสื่อมวลชนและสาธารณชนทั่วโลก มีผู้คนกว่า 750 ล้านคนคอยติดตาม CBS รายงานว่าค่าใช้จ่ายรวมของงานแต่งงานนี้ราว 70 ล้านดอลลาร์หากเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ในทุกวันนี้
ฤดูร้อนต่อมาหลังจากแต่งงาน ไดอาน่าได้ให้กำเนิดเจ้าชายน้อยองค์แรก ให้ชื่อว่า วิลเลียม อาร์เธอร์ ฟิลิป หลุยส์
ตามมาด้วยเจ้าชายน้อยพระองค์ที่สอง ให้ชื่อว่า เฮนรี ชาร์ลส์ อัลเบิร์ต เดวิด หรือ “แฮร์รี่” เมื่อวันที่ 5 กันยายน 1984
ครั้งหนึ่งเจ้าชายทั้งสองได้ให้สัมภาษณ์ว่า การเลี้ยงดูสไตลเจ้าหญิงไดอาน่า ที่ทั้งซุกซน และไม่เป็นทางการนั้น ให้นิยามได้ว่า “เธอเข้าใจถึงชีวิตจริงนอกพระราชวัง”
ไม่นานหลังจากแต่งงาน เธอได้กลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว หลังการไปเยือนสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกร่วมกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์
ในปี 1992 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และไดอาน่าแยกทางกันอย่างเป็นทางการ เมื่อเรื่องนี้แพร่ไปในหมู่สาธารณะชน เรียกได้ว่าเป็นข่าวใหญ่เเห่งปี
ในช่วงที่ยังเป็นเจ้าหญิง และหลังจากหย่าร้างแล้ว ไดอาน่าคือหนึ่งในสุภาพสตรีที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในโลก ไม่ว่าเธอจะเดินทางไปที่ไหนก็ตาม
ภาพไดอาน่าขณะพบกับคุณแม่เทเรซ่าเพื่อร่วมโครงการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ร่วมกัน
ภาพขณะพบปะกับเนลสัน เมนเดลลา
ภาพขณะเข้าพบพระสันตปาปา John Paul II
ภาพร่วมกับ Elton John เพื่อนสนิทส่วนพระองค์
ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งเจ้าหญิง เธอสนับสนุนองค์กรการกุศลจำนวนมาก หลังจากหย่าร้าง เธอก็ลาออกจากการบริหารองค์กรเหล่านั้น เพื่อไปบริหารองค์กรขนาดเล็กกว่าให้ดีขึ้น
เธอมีชื่อเสียงในฐานะผู้สนับสนุนหลักสำหรับผู้ป่วยโรคเอดส์ ภาพขณะที่เธอกำลังจับมืออันสั่นเทาของผู้ป่วยโดยไม่สวมถุงมือได้รับการยกย่องในฐานะที่ช่วยเปลี่ยนความคิดที่น่าอับอายและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วยเอดส์และผู้ติดเชื้อ
ไดอานายังสนับสนุนให้ถอนทุ่นระเบิดที่เป็นอันตรายออกจากผืนแผ่นดินด้วย ในปี 1997 เธอเดินผ่านบริเวณทุ่นระเบิดประจำการในแองโกลา และเป็นเจ้าภาพรายการโทรทัศน์พิเศษในหัวข้อเดียวกัน ซึ่งภาพเจ้าหญิงเดินผ่านทุ่นระเบิดนั้น ได้กลายเป็นภาพที่ทำให้หลายคนประทับใจอย่างมาก
ในการเดินทางครั้งเดียวกันนั้น เธอไปเยี่ยมชมเวิร์คช็อปเกี่ยวกับศัลยกรรมกระดูกซึ่งเธอได้พบกับแซนดร้า ธิจิกะ วัย 13 ปีผู้สูญเสียขาจากทุ่นระเบิดเหล่านั้น การให้กำลังใจจากเจ้าหญิง ทำให้เด็กน้อยรู้สึกปลาบปลื้มใจ
ไดอาน่ายังเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของโรงพยาบาลรอยัลมาร์เดนซึ่งเชี่ยวชาญในการรักษาโรคมะเร็ง
การเสียชีวิตอย่างกะทันหันของเธอทำให้อังกฤษเกิดความเศร้าสลดและเศร้าโศกไปทั่วประเทศ
หนึ่งในถ้อยคำที่เธอมักพูด และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ก็คือ “การกระทำโดยไม่เลือกและมีน้ำใจโดยไม่คาดหวังผลตอบแทน จะนำความชื่นใจมาให้เมื่อคุณรู้ว่า วันหนึ่งข้างหน้าอาจมีคนทำแบบเดียวกับคุณ“
แม้ว่าวันนี้เธอจะไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว แต่สิ่งที่เธอเหลือไว้คือหัวใจที่อบอุ่น ซึ่งได้ส่งมอบไปยังเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี่ จึงไม่ต้องเเปลกใจเลยว่าทำไมประชาชนถึงได้รักเจ้าชายทั้งสองพระองค์นี้ด้วย :)
ที่มา: businessinsider