“อาการซึมเศร้า” เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย บางครั้งแม้แต่คนที่ชีวิตสมบูรณ์แบบที่สุดก็ยังมีเรื่องที่รู้สึกหม่นหมองโดยไม่สามารถหาเหตุผลมาอธิบายได้เช่นกัน
สิ่งเหล่านี้มีปัจจัยหลายอย่าง ทั้งเรื่องสารเคมีในสมอง รวมถึงสิ่งที่คุณต้องเผชิญ และสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัว หากคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี สิ่งนั้นจะช่วยให้จิตใจของคุณรู้สึกดีขึ้นตามไปด้วย
ลองมาชมภาพความเปลี่ยนแปลงของห้องนอนผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า จากความยุ่งเหยิง เมื่อพวกเขาลงมือเก็บกวาด
1. หลังผ่านไปหลายเดือน เจ้าของห้องนี้ตัดสินใจเก็บกวาด และห้องที่สะอาดทำให้เขารู้สึกดีขึ้นแม้จะต้องใช้เวลาถึง 3 วันก็ตาม
2. การถูกกลั่นแกล้งตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ทำให้เจ้าของห้องนี้เผชิญกับโรคหวาดวิตกในการเข้าสังคม (ปัจจุบันอายุ 13 ปี) และพยายามที่จะฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อเขาพบกับซากหนูตายและแมลงสาบ เขาก็รู้สึกว่าต้องเก็บห้องสักที และนั่นเอง ที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาก็ชนะได้
3. ในที่สุดสาววัย 19 ปีที่เผชิญกับภาวะซึมเศร้ามานานก็ตักสินใจที่จะเอาชนะโรคของตัวเองด้วยการจัดเก็บห้องและบริจาคข้าวของกว่า 80% และนั่นทำให้เธอรู้สึกดีอย่างมาก
4. จากห้องเก่าๆ กลายเป็นห้องใหม่ได้เพียงเเค่เก็บกวาด เช่นเดียวกับชีวิตของเจ้าของห้องนี้
5. ความสะอาดและเพื่อนรัก สามารถช่วยเยีวยาจิตใจคนได้
6. ห้องนี้พึ่งเคยถูกทำความสะอาดเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี
7. บางครั้งความหดหู่สามารถเอาชนะได้ด้วยห้องที่สะอาดและสดใสขึ้น
8. แสงแดดทำให้จิตใจของคุณสดชื่นขึ้น และความสะอาดก็ทำให้คุณรู้สึกดีได้จริงๆ
9. บางครั้ง การอยู่ในห้องที่สะอาด ก็ทำให้คุณรู้สึกมีความสุขขึ้นได้จริงๆ
10. บางครั้งความสุขมาในรูปแบบของการเอาชนะใจตัวเอง ด้วยการลุกขึ้นมาเก็บกวาดห้องนอน
11. แค่การเก็บกวาดง่ายๆ ก็สร้างความสุขได้มากมายแล้ว ไม่เชื่อลองดูสิ
12. เจ้าของห้องนี้เสียใจกับการจากไปของคุณแม่ สิ่งที่ช่วยเยียวยาเขาได้คือการลุกขึ้นมาจัดเก็บห้องให้สะอาดเหมือนตอนที่แม่ยังอยู่
13. จุดเริ่มต้นเล็กๆ สามารถนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้
14. ความสะอาดนำมาซึ่งจิตใจที่แจ่มใส
15. เพราะห้องนอนคือสถานที่พักผ่อนของจิตใจ มันจึงสมควรได้รับการดูแลอย่างเอาใจใส่
คุณอาจจะเห็นความเปลี่ยนแปลงแค่ห้องที่สะอาดขึ้น แต่ความจริงแล้วห้องนอนเหล่านี้คือแหล่งพลังงานบวกของเจ้าของห้องที่ต้องเผชิญกับความหม่นหมองในจิตใจ พวกเขารู้สึกดีขึ้นหลังได้อยู่ในห้องที่สะอาดและสวยงาม รวมถึงเกิดความรู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่ทำ และมันช่วยให้พวกเขาต่อสู้กับโรคที่เผชิญได้ จนมันกลายเป็นแรงบันดาลใจที่ชาวเน็ตแชร์ต่อกันไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต
ที่มา: noonecares