“สินสอดทองหมั้น” เป็นหนึ่งในธรรมเนียมที่เเพร่หลายในเอเชีย โดยเฉพาะในอินเดียแล้วนับว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการสร้างครอบครัวเลยก็ว่าได้
ธรรมเนียมของที่อินเดียจะแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ในเอเชียอยู่สักหน่อย นั่นคือ แทนที่จะเป็นฝ่ายชาย ที่นี่จะให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้มอบสินสอดให้กับว่าที่เจ้าบ่าว ทำให้สาวๆ บางคนไม่สามารถแต่งงานได้ เนื่องจากพวกเธอมีสินสอดไม่เพียงพอ
โชคดีที่คนรุ่นใหม่มองว่าแนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดจะต้องยึดถืออะไรมากมาย เรื่องราวของพ่อหนุ่มอินเดียที่ปฏิเสธสินสอดในการหมั้นหมายถึงได้กลายเป็นเรื่องที่คนทั่วโลกให้ความสนใจอย่างมาก แถมการตัดสินใจในครั้งนี้ยังทำให้พ่อตาของเธอประทับใจ จนมอบหนังสือให้มากมายถึง 1,000 เล่ม เลยทีเดียว
Suryakanta Barik เจ้าบ่าวอินเดียวัย 30 ปี ทำงานเป็นคุณครูสอนอาชีพ และเป็นสมาชิกของ Sonarpur รัฐเบงกอลตะวันตกในอินเดีย เขากำลังจะแต่งงานกับ Priyanka Bej จาก หญิงสาวผู้มาจากเมือง Midnapore ในรัฐเดียวกัน
ตามประเพณี ครอบครัวของเจ้าสาว จะต้องถามไถ่ครอบครัวของเจ้าบ่าวว่าพวกเขาจะเรียกสินสอดเท่าไหร่? แต่การตัดสินใจของ Suryakanta นั้นทำให้ครอบครัวของ Priyanka ประทับใจ เมื่อว่าที่ลูกเขยนั้นปฏิเสธการรับสินสอดใดๆ แม้แต่เพียงอย่างเดียว
ตอนแรก ครอบครัวของ Priyanka รู้สึกทั้งประหลาดใจและประทับใจกับแนวความคิดของว่าที่ลูกเขยคนนี้ เพราะแทบจะไม่มีผู้ชายคนไหนในอินเดียที่จะปฏิเสธสินสอด แต่ในภายหลัง พวกเขารู้มาว่า Suryakanta เป็นหนอนหนังสือตัวยง ในที่สุด Priyanka จึงมอบหนังสือกองโตที่มีมูลค่ามากมายให้เขาแทนสินสอดทองหมั้น
“ผมบอกอย่างชัดเจนว่าผมจะไม่รับสินสอนใดๆ แต่เมื่อมาเข้าพิธี ก็ต้องประหลาดใจมากเมื่อพบกองหนังสือที่ถูกส่งมาเป็นของขวัญ” เจ้าบ่าวกล่าว
ไม่เพียงเท่านั้น แต่ความรักการอ่านและความคิดของเขาทำให้ Priyanka ผู้หลงใหลในการอ่านเช่นกันรู้สึกมีความสุขมาก ที่ได้สามีที่มีแนวความคิดขัดขืนต่อธรรมเนียมสินสอด
“ครอบครัวของฉันรู้ว่าฉันไม่เคยชอบแนวคิดเรื่องการแต่งงานหรือสินสอดทองหมั้นเลยสักนิด ดังนั้น ฉันจึงรู้สึกขอบคุณมากที่สามีเข้าใจในเรื่องนั้น คุณพ่อของฉันรู้ว่าฉันกรักหนังสือมากแค่ไหน และนั่นคือเหตุผลที่ทำไมเขาจึงมอบของขวัญชิ้นนี้ให้กับเรา“ Priyanka กล่าว
เป็นเรื่องราวเล็กๆ ที่แสนน่ารัก แม้ว่าจะดูเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเรา แต่สำหรับคู่บ่าวสาวชาวอินเดียคู่นี้ นี่อาจเป็นก้าวใหม่แห่งความเปลี่ยนแปลงต่อแนวคิดที่สังคมยึดถือมาแต่โบราณก็เป็นได้
ที่มา: noonecares