เคยสังเกตหรือไม่ว่าลูกคนรองในครอบครัวมักซุกซนและมีความกบฏมากกว่าลูกคนแรก
ผลการศึกษาล่าสุดยิ่งตอกย้ำความเชื่อที่ว่าลูกคนที่สองมีแนวโน้มที่จะรับมือได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาเป็นเด็กผู้ชาย
ในปี 2005 กลุ่มนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส นำโดย Dr. E. Black ได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยที่ว่า ลูกคนที่สองมักประสบความสำเร็จน้อยกว่าผู้เป็นพี่ทั้งด้านการเรียน และการทำงาน
การค้นพบนี้ค่อนข้างน่าแปลกใจเพราะเด็กๆ ที่ได้รับการวิเคราะห์มาจากครอบครัวที่พ่อแม่ให้โอกาสทางการศึกษาแก่ลูกๆ อย่างเท่าเทียมกัน
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยของ Joseph Doyle นักเศรษฐศาสตร์จาก Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT ที่ระบุผลการสำรวจของครอบครัวที่มีพี่น้องทั้งในสหรัฐอเมริกาและในยุโรปกว่า 1,000 คน พบว่า ลูกคนที่สองโดยเฉพาะลูกชาย ประมาณ 25-40 % มีพฤติกรรมสร้างปัญหาในโรงเรียน และมีแนวโน้มที่จะก่อเรื่องผิดกฎหมายมากกว่าพี่น้องคนอื่นๆ ซึ่งเป็นการตอกย้ำการค้นพบของเพื่อนร่วมงานที่ว่าด้วยข้อเสียของการเป็นลูกคนที่สอง
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพ หรือระดับการศึกษาต่ำที่กว่าเลย แต่ทั้งหมดนั้นเกี่ยวข้องกับผู้ปกครอง และผู้เป็นพี่
เมื่อลูกคนที่สองถือกำเนิดขึ้นในครอบครัว พ่อแม่ที่ผ่านประสบการณ์เลี้ยงเด็กกับลูกคนแรกมาแล้ว ก็จะลดระดับการปกป้องดูแลลงเล็กน้อย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากในช่วงวัยเด็ก ที่พ่อแม่มักจะทุ่มเทไปกับการเลี้ยงลูกคนแรกมากกว่า พอมีลูกคนที่สองความสนใจก็ลดลง และนั่นอาจส่งผลทำให้ลูกคนที่สองรู้สึกน้อยใจ และนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวตอนโต
ซึ่งปัญหานี้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้ความพยายามในการให้ความสำคัญกับลูกคนรอง และควบคุมอิทธิพลของพวกพี่ๆ เพื่อให้ลูกคนที่สองไม่กลายเป็นตัวแสบประจำบ้าน
อย่างไรก็ตาม อาจไม่ใช่กับทุกครอบครัวที่ลูกคนที่สองเป็นผู้สร้างปัญหาเสมอไป เพราะข้อมูลเหล่านี้เกิดจากผลการสำรวจของคนส่วนใหญ่เท่านั้น
ที่มา: brightside