จากสถิติที่รายงานโดย The Associated Press ผู้สนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อม ได้ประเมินว่า ชาวนิวยอร์กใช้ถุงพลาสติกมากถึง 23 พันล้านถุงต่อปี
เพื่อควบคุมผลกระทบที่อาจจะตามมาของขยะพลาสติก ฝ่ายนิติบัญญัติแห่งรัฐนิวยอร์ก จึงได้ตัดสินใจ “สั่งแบนการใช้ถุงพลาสติก” แบบใช้ครั้งเดียว เกือบทุกประเภทจากยอดค้าปลีก
แนวคิดนี้ได้รับมาจากรัฐบาลของ Andrew M. Cuomo และทำให้นิวยอร์กกลายเป็นรัฐที่ 2 หลังจากแคลิฟอร์เนีย ที่สั่งห้ามใช้ถุงพลาสติกในปี 2016
การสั่งห้ามของกรุงนิวยอร์กนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการเริ่มต้นในเดือนมีนาคมปีหน้า โดยจะสั่งห้ามไปยังร้านค้า เพื่อให้ลูกค้างดใช้ถุงลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง เนื่องจากมันไม่สามารถย่อยสลายได้ และส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
นโยบายการแบนถุงพลาสติกนี้ คาดว่าอาจต้องใช้งบประมาณของรัฐ รวมถึงข้อยกเว้น เช่น ถุงซื้สำหรับซื้ออาหารกลับบ้าน ให้ใช้ถุงผ้า ถุงกระดาษ หรือถุงอื่นๆ ที่ไม่ใช่พลาสติกแทน
นอกจากนี้ ยังมีเงื่อนไขอื่นๆ ที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยสนับสนุนข้อกำหนดนี้ เช่น ค่าธรรมเนียมร้อยละ 5 สำหรับถุงกระดาษ โดยรายได้ที่ได้ จะถูกนำไปสมทบยังกองทุนคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและกองทุนแยกต่างหากเพื่อซื้อถุงที่นำกลับมาใช้ใหม่สำหรับผู้บริโภค
Mr. Cuomo กล่าวว่า ทุกวันนี้ถุงพลาสติได้ทำลายสภาพแวดล้อมและอุดตันแหล่งน้ำ มาตรการนี้จะเป็นการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติเพื่อโลกที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นใหม่
นอกจากนี้รัฐอื่นๆ หลายแห่งได้เริ่มดำเนินการตามกฎหมายในการควบคุมการออกผลิตภัณฑ์พลาสติกอื่นๆ อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้ร่างกฎหมายฮาวายได้เสนอร่างกฎหมาย 2 ฉบับที่จะนำเสนอแนวต่อต้านพลาสติกส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมร้านอาหาร ในขณะที่รัฐแมรี่แลนด์ ได้เสนอห้ามภาชนะบรรจุอาหารสไตรีนอย่างสมบูรณ์
เราหวังว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่นอกจากจะช่วยในด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยให้ผู้คนหันมาตระหนักถึงปัญหาและเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตให้เป็นมิตรกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้นด้วย
ที่มา: healthyfoodhouse