บางครั้งการตั้งชื่อลูกก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเสมอไป เพราะบางประเทศการตั้งชื่อถูกแบนโดยรัฐบาลที่เห็นว่าไม่เหมาะสม หรืออีกนัยหนึ่งคือพวกเขากำลังปกป้องเด็กทารกจากความกระอักกระอ่อนใจที่เด็กๆ อาจพบเจอในอนาคต
อย่างไรก็ตาม เกณฑ์การปิดกั้นชื่อนี้อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศนั้นๆ มาดูกันดีกว่าว่าชื่อใดบ้างที่ถูกแบนห้ามให้ใช้
1. ประเทศฝรั่งเศส
ก่อนช่วงปี 1993 ตัวเลือกการตั้งชื่อถูกควบคุมโดยกฎหมายที่ออกโดยนโปเลียน โบนาปาร์ต ระบุให้เป็นชื่อที่สามารถยอมรับได้ และในปัจจุบันประชาชนจะต้องแจ้งศาลท้องถิ่นถึงชื่อที่พวกเขาจะตั้งให้ลูก หากชื่อนั้นมีแววจะนำไปสู่การล่วงละเมิดทางใดทางหนึ่งในอนาคต ศาลก็สามารถสั่งห้ามได้
ชื่อที่ถูกแบน: Nutella, Strawberry, Mini Cooper, Prince William
2. ประเทศซาอุดีอาระเบีย
รัฐบาลของประเทศห้ามให้ใช้ชื่อต่างประเทศ หรือชื่อที่มีความคล้ายคลึงกับคำลามกหรือดูหมิ่น และคำต่างๆ ที่ละเมิดสังคม รวมถึงประเพณีศาสนา
ชื่อที่ถูกแบน: Linda, Angel, Maya, Queen, Alice, Ben, Prophet
3. ประเทศไอซ์แลนด์
ผู้ปกครองสามารถเลือกชื่อจากรายการที่มีอยู่ประมาณ 1,800 ชื่อสำหรับแต่ละเพศ (ซึ่งมีข้อยกเว้นสำหรับผู้ปกครองที่มาจากประเทศอื่นๆ) อย่างไรก็ตามหากชื่อที่เลือกไม่อยู่ในรายการที่กำหนด ทางคณะกรรมการพิเศษจะต้องทำการอนุมัติชื่อก่อน
ซึ่งการตั้งชื่อควรเป็นไปตามกฎภาษาไอซ์แลนด์ในแง่ของไวยากรณ์และการสะกดคำ ตัวอย่างเช่น หากชื่อประกอบด้วย Q หรือ W ชื่อนั้นก็จะถูกแบน
ชื่อที่ถูกแบน: Harriet, Dunkan, Zoe, Enrique, Ludwig
4. ประเทศโปรตุเกส
ในประเทศนี้ชื่อทารกจะต้องเป็นภาษาโปรตุเกสแบบดั้งเดิม ระบุถึงเพศทางทารก และไม่ฟังเหมือนชื่อเล่น ซึ่งมีลิสต์รายชื่อให้ผู้ปกครองเลือเช่นเดียวกับที่ไอซ์แลนด์
ชื่อที่ถูกแบน: Nirvana, Viking, Jimmy, Rihanna, Sayonara
5. ประเทศเยอรมนี
ที่เยอรมนีองค์กรส่วนพิเศษท้องถิ่นจะต้องทำการอนุมัติชื่อก่อน และชื่อก็ควรระบุถึงเพศอย่างชัดเจน โดยไม่สามารถตั้งชื่อเป็นอาหาร นามสกุล หรือชื่อของสิ่งของได้
ชื่อที่ถูกแบน: Adolf Hitler, Usama Bin Ladin, Woodstock, Gramophone
6. ประเทศเดนมาร์ก
ที่นี่ผู้ปกครองสามารถเลือกรายการชื่อที่ได้รับการอนุมัติแล้วจากลิสต์ที่มีอยู่ โดยมีชื่อผู้หญิงถึง 18,000 ชื่อ และชื่อผู้ชาย 15,000 ชื่อ แต่หากต้องการให้ลูกมีชื่อที่ไม่ซ้ำใครก็ต้องได้รับการอนุมัติก่อน และชื่อจะต้องระบุถึงเพศและเป็นตามกฎภาษาของประเทศ
ชื่อที่ถูกแบน: Ape, Pluto, Cammmilla, Ashleiy และ Jacobp
7. ประเทศมาเลเซีย
รายการชื่อต้องห้ามจากประเทศนี้ประกอบด้วยตัวเลข สี ผัก ผลไม้ อุปกรณ์และคำหยาบ หากผู้ปกครองต้องการตั้งชื่อลูกเป็นหนึ่งในประเภทเหล่านี้ก็ต้องได้รับการอนุมัติก่อน
ชื่อที่ถูกแบน: Stinky Head, Hitler, 007, Hunchback
8. ประเทศสวีเดน
ที่นี่ห้ามตั้งชื่อที่มีความไม่เหมาะสมอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงชื่อที่สามารถนำไปสู่ความกระอักกระอ่วนใจในอนาคต
ชื่อที่ถูกแบน: Elxis, Allahu Akbar, K8lyn
9. ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ที่สวิตเซอร์แลนด์ปฏิบัติเช่นเดียวกับเยอรมนี โดยต้องให้องค์กรพิเศษทำการอนุมัติชื่อก่อน ซึ่งไม่สามารถใช้นามสกุลในการตั้งชื่อ รวมทั้งชื่อตัวร้ายในคัมภีร์ไบเบิ้ล ตราสินค้า หรือสถานที่ทางภูมิศาสตร์
ชื่อที่ถูกแบน: Cain, Judas, Brooklyn, Chanel, Mercedes, Paris
10. ประเทศบริเตนใหญ่
ในบริเตนใหญ่ไม่มีกฎหมายควบคุมชื่อก็จริง แต่มีกฎเกณฑ์ตั้งชื่อว่าต้องไม่ใช่คำหยาบ ตัวเลข คำนำหน้า และชื่อที่ไม่สามารถออกเสียงได้
11. ประเทศนิวซีแลนด์
ไม่สามารถใช้ชื่อที่กลายเป็นทำร้ายคนอื่น หรือชื่อที่มีมากกว่า 100 ตัวอักษร หรือชื่อที่ทำให้นึกถึงตราสินค้า ตัวอย่างเช่นชื่อ Justice ไม่สามารถใช้ได้
ชื่อที่ถูกแบน: Fat Guy, Lucifer, Jesus Christ, Saint, Chief Maximus, 4real, Mafia No Fear
12. ประเทศเม็กซิโก
ชื่อที่ทำให้เกิดปัญหาในอนาคตจะถูกแบน และไม่สามารถใช้ชื่อตัวละครได้
ชื่อที่ถูกแบน: Hermione, Burger King, Robocop, Twitter, Christmas, E-mail, Circumcision, Lady Di, Underwear, Pocahontas, Spinach
13. ประเทศโมร็อกโก
ในโมร็อกโกชื่อต่างชาติที่ผู้ปกครองเลือกอาจโดนแบนได้ ตัวอย่างเช่นชื่อ Sarah ถูกแบนเนื่องจากใช้คำสะกดจากต่างประเทศ แต่ถ้า Sara แบบนี้สามารถใช้ได้
14. รัสเซีย
นับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา ที่รัสเซียห้ามมิให้มีการตั้งชื่อเด็กด้วยตัวเลข สัญลักษณ์ที่ไม่ใช่ตัวอักษร คำหยาบ คำนำหน้า ยศศักดิ์ และตำแหน่งหน้าที่
15. ออสเตรเลีย
ที่ออสเตรเลียจะมีลิสต์รายชื่อต้องห้ามไว้สำหรับผู้ปกครอง นอกจากนี้จะแบนชื่อที่มีคำหยาบคาย คำที่ยาวเกินไป และคำที่ไม่มีอักขระอยู่ในภาษาอังกฤษ
ชื่อที่ถูกแบน: #ROFL, LOL, iMac, Jesus Christ, Marijuana, Australia, Stan, Sister, God
ในหลายๆ ประเทศกฎหมายที่ใช้บังคับกับการตั้งชื่อเด็กนั้นก็ตั้งอยู่บนหลักการง่ายๆ ไม่ซับซ้อนมากความ เช่น ชื่อนั้นไม่ควรฟังเหมือนคำหยาบคาย หรือไม่ควรสร้างปัญหาให้กับเด็กในอนาคต นอกจากนี้ ในบางประเทศชื่อที่ฟังเหมือนดูหมิ่นประเพณีวัฒนธรรมก็ไม่อาจใช้ได้เช่นกัน
ที่มา: brightside