สำหรับบางคนการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอาจฟังดูเป็นเรื่องที่ไร้ความหวังและเสียเวลา ทว่ากลับไม่ใช่สำหรับ Jadav Payeng ชายชาวอินเดียผู้ไม่ย่อท้อ ลงมือพลิกผืนดินที่แห้งแล้งให้กลายเป็นป่าเขียวชอุ่ม แม้ต้องใช้เวลานานกว่า 40 ปีก็ตาม
Majuli คือเกาะในประเทศอินเดีย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นดินแดนที่สมบูรณ์ แต่สุดท้ายก็ต้องเผชิญกับความแห้งแล้ง เต็มไปด้วยเม็ดทราย เพราะภาวะโลกร้อน ซึ่งที่นี่เองที่ Jadav ตัดสินใจมาพลิกฟื้นคืนชีวิตให้อุดมสมบูรณ์อีกครั้ง
เมื่อตอนที่ Jadav อายุ 16 ปี เขาได้พบเจอกับเหตุการณ์ที่น่าสลดใจ ไม่ว่าจะเป็นงูที่ตายเกลื่อนกลาดทั่วเกาะ น้ำท่วมที่พัดพาสิ่งมีชีวิตขึ้นมาบนแผ่นดิน ซึ่งสาเหตุของการสูญเสียประชากรสัตว์ก็เนื่องมาจากความร้อน ไร้ร่มเงาให้พักพิง
หลังจากได้เป็นพยานรู้เห็นความพินาศของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น Jadav จึงลงมือชุบชีวิตให้ผืนดินที่แห้งแล้งด้วยการปลูกต้นไม้ทุกวัน โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 1979 จนกลายมาเป็นป่า Mulay Forest ในอีก 40 ปีต่อมา ซึ่งที่ดินผืนนี้ใหญ่กว่า Central Park และมีขนาดใหญ่กว่านครรัฐวาติกันถึง 12 เท่า
ปัจจุบันป่าแห่งนี้ทำหน้าที่รักษาระบบนิเวศให้กับท้องถิ่น เป็นที่พักพิงให้สัตว์ป่าพื้นเมือง รวมทั้งเป็นที่อยู่ของเสือเบงกอล กวาง แรด แร้ง ช้าง และงู
ของขวัญที่ Jadav มอบให้แก่ธรรมชาติอาจจะกลายเป็นความลับที่ไม่มีใครล่วงรู้ หาก Jitu Kalita ช่างภาพชาวอินเดียไม่นำมาเผยแพร่
ซึ่ง Kalita มาค้นพบป่าผืนนี้ในขณะที่เขาเดินทางไปถ่ายภาพนกในปี 2007 จากนั้นจึงนำเรื่องราวของ Jadav มาถ่ายทอดเป็นสารคดีโดยให้ชื่อเรื่องว่า Forest Man
จากการพยายามปลูกต้นไม้ทุกวันในช่วงเวลา 40 ปีที่ผ่านมา กลายเป็นความภาคภูมิใจของคนในชาติและตัว Jadav เอง นอกจากนี้ผลงานของเขายังได้รับการยอมรับจากอดีตประธานาธิบดีของอินเดีย ผู้ซึ่งตั้งชื่อให้เขาว่า “Forest Man of India”
เรื่องราวของ Jadav ทำให้มองเห็นว่าแม้การรักษาสภาพแวดล้อมจะเป็นเรื่องยาก หรืออาจต้องใช้เวลามากสักหน่อย แต่สุดท้ายก็ใช่ว่าความพยายามจะไร้ประโยชน์ เพียงแค่ต้องอดทนและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เหมือนที่ชายชาวอินเดียคนนี้ลงมือปลูกต้นไม้ทุกวันเป็นเวลานานนับ 40 ปี
ที่มา: brightside