มีรายงานผลการทดสอบ “แคปซูนยับยั้งฮอร์โมนการเจริญพันธุ์ในผู้ชาย” ว่าสามารถใช้ได้ผลอย่างปลอดภัย ทำให้มีผู้ที่สนใจสมัครทดลองใช้ยาคุมกำเนิดชายนี้
หลังจากการทดลองรักษาประมาณ หนึ่งเดือน เม็ดยาแบบใหม่ที่เรียกว่า dimethandrolone undecanoate หรือ DMAU ซึ่งอยู่ในรูปแบบแคปซูนสำหรับทานวันละหนึ่งเม็ด ได้ลดระดับฮอร์โมนรวมถึงฮอร์โมนเพศชายที่จำเป็นสำหรับการผลิตอสุจิ
ซึ่งระหว่างการทดสอบนี้ ผู้สมัครชายทั้ง 83 คนไม่พบผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลงแม้แต่รายเดียว ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการรายงานโดยนักวิจัยในการประชุมประจำปีของสมาคมทางการแพทย์ต่อมไร้ท่อ
“นักวิทยาศาสตร์ได้ทำงานเกี่ยวกับการคุมกำเนิดชายมานานหลายทศวรรษแล้ว” Monica Laronda นักต่อมไร้ท่อและระบบสืบพันธุ์ที่โรงพยาบาลเด็ก Ann & Robert H. Lurie แห่ง Chicago ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวิจัยกล่าวว่า “DMAU ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะทำตามคำสัญญาอย่างยอดเยี่ยม”
จากการสำรวจแสดงให้เห็นว่าผู้ชายหลายคนมีความสนใจในรูปแบบของการคุมกำเนิดนอกเหนือจากถุงยางอนามัยและการทำหมัน ซึ่งทางการแพทย์กำลังเร่งพัฒนาอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เจลสำหรับทาให้สามารถคุมกำเนิดได้
การคุมกำเนิดของฮอร์โมนสามารถทำงานได้ดีกับผู้ชายเช่นเดียวกับผู้หญิง ด้วยการควบคุมระดับฮอร์โมนบางอย่าง เพื่อให้ร่างกายสามารถกลับมาสร้างใหม่ได้เอง
ในกรณีของผู้ชาย การเพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะช่วยยับยั้งการปล่อยฮอร์โมนลูทีนนิ่งซิงและฮอร์โมนกระตุ้นรูขุมขน ซึ่งจะหยุดอัณฑะจากการสร้างฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและสเปิร์ม เมื่อการรักษาสิ้นสุดการใช้ยา ร่างกายจะกลับไปผลิตฮอร์โมนการสืบพันธุ์ และภาวะเจริญพันธุ์กลับคืนมาโดยธรรมชาติ
แต่ฮอร์โมนเพสชายนี้ไม่สามารถคงอยู่ในกระแสเลือดได้นานนัก การฉีดยาเพียงครั้งเดียวไม่สามารถทำให้มันออกฤทธิ์สำหรับการคุมกำเนิดได้อย่างเต็มที่ ทั้งการเพิ่มฮอร์โมนที่มากเกินไปอาจทำลายตับได้
ดังนั้น DMAU ซึ่งกลายเป็นสารออกฤทธิ์ที่เรียกว่า dimethandrolone ในร่างกายจึงถูกออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้
ในการทดสอบ ได้มีการนำ DMAU ในขนาดที่ต่างกัน 3 ขนาด โดยอาสาสมัครชายที่ได้รับขนาดยาสูงสุด จะมีระดับที่ลดลงของฮอร์โมน luteinizing, ฮอร์โมนกระตุ้นรูขุมขนและฮอร์โมนเพศชายจากการทานยาวันละหนึ่งเม็ดทุกวันเป็นเวลา 28 วัน การลดระดับของฮอร์โมนเหล่านั้นเป็นที่รู้กันว่าเพื่อป้องกันการพัฒนาตัวอสุจิ
สำหรับผลข้างเคียง โดยรวมแล้วอาสาสมัครมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และมีการลดลงของคอเรสเตอรอลที่ดี ทั้งยังมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียอารมณ์ทางเพศและการทำกิจกรรมดังกล่าว
ทว่า มีเพียง 8 คน จากตัวแทนทั้งหมด 83 คน เท่านั้นที่มีอาการนี้ นอกจากนี้ จากผลตรวจเลือดยังเผนว่ายาเม็ดเหล่านี้ไม่ส่งผลกระทบต่อตับ
นักวิจัยจะเริ่มทำการศึกษาการใช้งานจริงในระยะเวลา 3 เดือน เพื่อทดสอบจำนวนอสุจิในกลุ่มชายผู้ทานยา หากได้รับผลการศึกษาที่ดี คาดว่าจะมีการทดสอบยาเหล่านั้นโดยคู่รักที่ต้องการคุมกำเนิด และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับชายผู้ต้องการควบคุมการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมในอนาคต
ที่มา: sciencenews