หลายๆ คนน่าจะเคยมีอาการปวดหู หรือหูอื้อขณะโดยสารเครื่องบิน วันนี้เราจึงมีคำแนะนำจาก รศ. นพ. ปารยะ อาศนะเสน ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในการป้องกันไม่ให้เกิดอาการดังกล่าวมาฝากกัน
มาลองอ่านคำแนะนำดังต่อไปนี้ แล้วนำไปปฏิบัติตามกันดูนะ
1. เวลาเดินทางควรป้องกันตนเองไม่ให้เป็นหวัด สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคจมูกหรือไซนัสอักเสบเรื้อรัง ควรป้องกันไม่ให้อาการทางจมูกหรือไซนัสกำเริบ
เวลาเดินทางควรป้องกันตนเองไม่ให้เป็นหวัดโดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายลดลง เช่น เครียด นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ การสัมผัสอากาศที่เย็นมากเกินไป หรือสัมผัสอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากร้อนเป็นเย็นจากเย็นเป็นร้อน หรือมีคนรอบข้างที่ไม่สบายคอยแพร่เชื้อให้
สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคจมูกหรือไซนัสอักเสบเรื้อรัง ควรป้องกันไม่ให้อาการทางจมูกหรือไซนัสกำเริบ โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการ (เช่น ความเครียด, การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ อารมณ์เศร้า วิตกกังวล เสียใจ ของฉุน ฝุ่น ควัน อากาศที่เปลี่ยนแปลง และการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจหรือหวัด)
เนื่องจากถ้ามีการอักเสบในโพรงจมูก จะส่งผลถึงรูเปิดของท่อยูสเตเชี่ยนซึ่งอยู่ที่โพรงหลังจมูก ทำให้การทำหน้าที่ของท่อยูสเตเชี่ยนผิดปกติไป เกิดปัญหาของหูดังกล่าว
2. ถ้ามีอาการทางจมูก เช่น คัน จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล และจำเป็นต้องขึ้นเครื่องบิน ควรใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการทางจมูก
เช่น รับประทานยาแก้แพ้ ยาหดหลอดเลือด หรือใช้ยาพ่นจมูก อาจร่วมกับการล้างจมูก หรือการสูดไอน้ำร้อน เพื่อทำให้การอักเสบภายในจมูกลดน้อยลง ซึ่งจะส่งผลให้เยื่อบุรอบรูเปิดท่อยูสเตเชี่ยนยุบบวมลง ทำให้ท่อยูสเตเชี่ยนกลับมาทำงานปกติได้เร็วขึ้น
เช่น อาจรับประทานยาหดหลอดเลือด ก่อนเครื่องบินขึ้นหรือลง ประมาณครึ่งชั่วโมง หรือพ่นยาหดหลอดเลือด ก่อนเครื่องบินขึ้นหรือลง ประมาณ 5 นาที
3. ควรทำให้ท่อยูสเตเชี่ยนทำงานเปิด/ ปิดอยู่ตลอด ระหว่างเครื่องบินขึ้นหรือลง
เช่น เคี้ยวหมากฝรั่ง เพื่อให้มีการกลืนน้ำลายบ่อยๆ ซึ่งขณะกลืนน้ำลายจะมีการเปิดและปิดของท่อยูสเตเชี่ยน หรือบีบจมูก 2 ข้างและกลืนน้ำลาย 1 ครั้ง (ท่อยูสเตเชี่ยนจะปิด) และเอามือที่บีบจมูกออกและกลืนน้ำลาย 1 ครั้ง (ท่อยูสเตเซียนจะเปิดและปิด)
ขณะที่เป็นหวัดหรือไซนัสอักเสบซึ่งมีการติดเชื้อในจมูก ไม่ควรบีบจมูก และเป่าลมให้เข้ารูเปิดของท่อยูสเตเชี่ยน เพราะจะทำให้เชื้อโรคในจมูกเข้าไปสู่หูชั้นกลางได้
4. ผู้ที่มีปัญหาเรื่องหูเวลาขึ้น/ลงเครื่องบิน ควรพกยาหดหลอดเลือดชนิดพ่น และชนิดรับประทานไว้ด้วยเสมอ
ถ้าได้ป้องกันอาการของหูก่อนขึ้น-ลงเครื่องบินดังข้อ 2 แล้วยังมีอาการทางหูอยู่ อาจพ่นหรือหยอดยาหดหลอดเลือดเข้าไปในจมูกอีกทุก 10 -15 นาที และทำให้ท่อยูสเตเชี่ยนทำงานเปิด/ปิดอยู่ตลอด ดังอธิบายไว้แล้วในข้อ 3
ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาเรื่องหูเวลาขึ้น/ลงเครื่องบิน ควรพกยาหดหลอดเลือดชนิดพ่น และชนิดรับประทานไว้ด้วยเสมอ
เพียงแค่ปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ อาการปวดหู หรือหูอื้อของคุณก็จะหมดไป
ที่มา: www.si.mahidol.ac.th