ชม 17 ภาพคริสต์มาสจากประเทศต่างๆ บนพื้นฐานประเพณีที่ไม่เหมือนกัน

และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาที่หลายคนรอคอย นั่นก็คือ ‘เทศกาลวันหยุดยาว’ ที่บางบริษัทให้พนักงานกลับบ้านไปพักผ่อนตั้งแต่ช่วงก่อนคริสต์มาสไปจนถึงวันขึ้นปีใหม่เลยทีเดียว

วันนี้เราจะพาไปดูช่วงฮอลิเดย์ของแต่ละประเทศกัน ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละที่ย่อมมีวัฒนธรรมวันหยุดที่ไม่เหมือนกัน นี่จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่ควรค่าแก่การเรียนรู้

 

Santa Claus Village ในเมืองโรวาเนียมิประเทศฟินแลนด์ เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของซานตาคลอส ที่ซึ่งเด็กๆ จะเขียนจดหมายไปหาซานต้าเพื่อขอของขวัญ ที่นี่จึงได้รับการขนานให้เป็นหมูบ้านของซานตาคลอส

 

ตลอดทั้งปีจะมีทั้งเจ้าบ้านและนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม

 

ส่วนคริสต์มาสในประเทศโครเอเชียจะเกี่ยวข้องกับโคมไฟซะส่วนใหญ่ ซึ่งกลายมาเป็นประเพณีก่อนคริสต์มาสของเมืองหลวง โดยผู้คนจะทำการปล่อยโคมสู่ท้องฟ้าซาเกร็บนำเอาความหวังและความปราถนาลอยไปด้วย

 

วันคริสต์มาสมักจะมีเนื้อสัตว์เป็นอาหารจานหลัก พร้อมด้วยกะหล่ำปลียัดไส้ และอาหารจานอื่นๆ โดยชาวโครเอเชียส่วนมากมักจะไปจับจ่ายกันที่ตลาด Dolac ในซาเกร็บเพื่อเตรียมของทำอาหาร

 

การฉลองปีใหม่ในเบลารุสและรัสเซียมีชื่อเรียกว่า Kolyada เป็นวันหยุดเก่าแก่ของคนนอกศาสนา เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมต่างๆ ที่เชื่อว่าจะนำมาซึ่งการเก็บเกี่ยวที่ดีในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง

 

นอกจากนี้พวกเขายังฉลองคริสต์มาสกับฟาเธอร์ฟรอสต์ (Father Frost) (บางคนก็เรียกว่า Grandfather Frost) และ Snow Maiden หลานสาวของเขา

 

ชาวกรีกฉลองคริสต์มาสด้วยเรือประดับไฟ สิ่งเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของความสุขที่เกิดขึ้นทั่วเมืองเมื่อพวกเขาได้กลับมารวมตัวพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง หลังจากที่เดินทางออกทะเลไปเป็นเวลานาน

 

ในบางประเทศรวมถึงอเมริกา คริสต์มาสกลายเป็นวันหยุดเชิงพาณิชย์ที่เต็มไปด้วยของขวัญ งานตกแต่ง และปาร์ตี้

 

และมาพร้อมกับกองของขวัญมากมาย

 

ชาวอเมริกันบางส่วนเริ่มฉลองคริสต์มาสทันทีหลังจากวันขอบคุณพระเจ้าสิ้นสุดลง โดยพวกเขาจะนำต้นคริสต์มาสเข้ามาในบ้าน ส่งการ์ดวันหยุด ร้องเพลง และพาลูกๆ ไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อถ่ายรูปกับซานต้า

 

ส่วนที่สหราชอาณาจักร สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง จะพระราชทานพรเนื่องในเทศกาลคริสต์มาส สาส์นของพระองค์มักสะท้อนถึงเหตุการณ์ปัจจุบันและความหมายของคริสต์มาส

 

ชาวแอฟริกัน-อเมริกัน มักฉลองต่อเนื่องจากคริสต์มาส ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคมไปจนถึงวันปีใหม่ โดยเทศกาลนี้เรียกว่า Kwanzaa

 

ในบราซิลรูปปั้น Cristo Redentor จะเรืองแสงสีแดงเพื่อเฉลิมฉลองวันตรุษจีน

 

ปีใหม่ก็เป็นวันหยุดที่สำคัญในญี่ปุ่นเช่นกัน โดยชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า “โอมิโซะกะ (Omisoka)” เป็นช่วงที่ทุกคนจะวุ่นวายกับการทำความสะอาด และกล่าวสวัสดีปีใหม่แก่คนรู้จัก

 

Epiphany หรือ Three Kings Day เป็นการเฉลิมฉลองที่เกิดขึ้นในชุมชนคริสเตียนทั่วโลกในวันที่ 6 มกราคม

 

เด็กๆ ในสเปนจะทิ้งกล่องหญ้าแห้งไว้ใต้เตียงหรือข้างนอกเพื่อหวังว่าจะได้รับของขวัญ

 

การเฉลิมฉลองปีใหม่ของสกอตแลนด์มีความคล้ายคลึงกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยมีการจุดพลุสว่างไสวบนท้องฟ้าราตรี และยังมีตลาดคริสต์มาส (Christmas Market) ให้เดินเล่น

 

เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยสีสัน และอบอวลไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง

 

ที่มา: thisisinsider

ร่วมแสดงความคิดเห็น...

SHARE

ดูเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ...