หนึ่งในคำถามที่หลายคนอาจกำลังคิดไม่ตก (อาจเคยคิด หรือยังคิดอยู่) ว่าหลังจากที่เรียนจบแล้ว ชีวิตจะก้าวต่อไปอย่างไร
แม้ว่าในตลาดงานจะดูกว้างใหญ่ และมีงานมากมายรอให้ไขว่คว้า แต่ด้วยอัตราการแข่งขันที่สูงขึ้น ทำให้ทุกอย่างดูยิ่งยาก โดยเฉพาะในปัจจุบัน
แม้แต่ในสหรัฐอเมริกา หนึ่งในตลาดงานที่ใหญ่ติดอันดับโลก นักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษาในปี 2018 นี้ ก็ยังมีคำถามเดียวกันเกิดขึ้นมา จากรานงานล่าสุดของ CNBC ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่เกี่ยวกับสิ่งที่ผู้สำเร็จการศึกษาในปี 2018 จะสามารถคาดหวังได้จากตลาดงาน ทำให้เราได้ทราบข้อมูลเหล่านี้
เงินเดือนที่สูงขึ้น
ตามข้อมูลที่ได้รับจาก National Association of Colleges and Employers (NACE) บัณฑิตป้ายแดงสามารถคาดหวังเงินเดือนที่สูงขึ้นได้
ความจริงก็คือ ผู้ที่จบจาก 10 วุฒิการศึกษาที่ครอบคลุมธุรกิจเพื่อมนุษยศาสตร์สามารถคาดหวังข้อเสนอที่ดีกว่าเดิม ในยุคที่อัตราการว่างงานต่ำที่สุดในรอบ 17 ปี
แนวโน้มการจ้างงานที่น้อยลง
แม้ว่าเงินเดือนที่สูงขึ้นจะเป็นข่าวดี แต่ CNBC ยังรายงานต่อไปด้วยว่า เมื่อเงินเดือนเพิ่มขึ้น โอกาสในการทำงานก็จะลดลง
ตามที่ NACE รายงาน เหล่านายจ้างเผยว่า พวกเขาจะจ้างบัณฑิตใหม่น้อยลง 1.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่า นี่เป็นการลดการจ้างงานลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010
ภาระหนี้สินจากการกู้เรียนของนักเรียน
อย่างที่รู้กันดีว่า ในสหรัฐอเมริกาหนี้สินที่เกิดจากการกู้ยืมเรียนนั้นมีตัวเลขที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก ด้วยหนี้ที่ค้างชำระโดยเฉลี่ยมากกว่า 34,100 เหรียญสหรัฐต่อบัณฑิตหนึ่งคน
ในปัจจุบัน ภาระหนี้สินเหล่านี้มีส่วนร่วมในเรื่องความมั่นคงทางการเงินในอนาคต โดยพวกเขาเชื่อว่า เงินที่ให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาจะส่งผลกระทบต่อทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่การซื้อบ้านไปจนถึงการมีลูก
ตามที่ CNBC รายงาน 11% ของบัณฑิตป้ายแดงไม่เชื่อว่าพวกเขาจะสามารถเกษียณอายุได้
ข้อมูลความเคลื่อนไหวเหล่านี้ อาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังมองหาช่องทางในตลาดงานสหรัฐฯ หรือแม้กระทั่งผู้ที่กำลังวางแผนจะไปเรียนต่อ เพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
ที่มา: masterstudies
