ยุโรป และ สหรัฐอเมริกา ต่างเป็นดินแดนในฝันที่ใครหลายคนอยากไปเยือน ความแตกต่างระหว่างสองทวีปนี้ มีทั้งเรื่องเล็กๆ อย่างรายละเอียดปลีกย่อยของวัฒนธรรม ไปจนถึงเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทาง
อีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่าง คือที่พักสำหรับนักเดินทาง คุณอาจคิดว่าโรงเเรมในต่างประเทศส่วนใหญ่ก็ดูน่าจะคล้ายกันหมด แต่ความจริงแล้วมันมีความต่างที่น่าสนใจมากมาย มาดูกันดีกว่า ว่าระหว่างโรงแรมในยุโรปกับอเมริกา ต่างกันยังไงบ้าง
โรงแรมในยุโรปมักมีขนาดที่เล็กกว่า
ฟูกที่ใช้นอนของยุโรป เหมาะสำหรับการนอนเพียงแค่สองคน ส่วนของอเมริกา คุณอาจนอนได้ถึงสามคน
การเรียงลำดับชั้นที่ตกต่าง ในยุโรปนับชั้นใต้ดินเป็นชั้นแรก ส่วนในอเมริกา จะเรียกว่าชั้นใต้ดิน และชั้นถัดมาคือชั้นที่ 1
ลิฟต์ในโรงแรมแถบยุโรปมักเล็ก และแคบ ซึ่งไม่เหมาะกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
ฝักบัวอาบน้ำ คือสิ่งที่มีเป็นเรื่องปกติ ในห้องน้ำของโรงแรมในยุโรป
ห้องอาบน้ำในโรงแรมของยุโรป มักใช้กระจกกั้นแทนม่านอาบน้ำ
ห้องน้ำในโรงแรมยุโรป มักมีโถนั่งสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีสเปรย์น้ำทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ในขณะที่อเมริกามักใช้รวมกัน
ปลั๊กไฟของทั้งสองที่แตกต่างกัน คุณควรเตรียมเครื่องแปลงไฟแบบพกพาไปด้วย เพื่อใช้ในกรณีที่โรงแรมไม่มีเครื่องแปลงให้
โรงแรมในอเมริกามักมีนาฬิกาพร้อมฟังก์ชันการปลุกเป็นมาตรฐานอยู่ติดกับเตียง ในขณะที่โรงแรมในยุโรปไม่นิยมมีนาฬิกาติดตั้งเอาไว้
โรงแรมในยุโรปมักคงความวินเทจและเก่าแก่ ตั้งแต่การตกแต่งไปจนถึงบริการอาหารเช้า ทำให้หลายคนมองว่ามันเป็นเพียงโรงแรมเก่าๆ ซึ่งในอเมริกา โรงแรมต่างๆ นิยมความทันสมัยและเป็นสากลมากกว่า
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นข้อสรุปทั้งหมดของโรงแรมทุกแห่งในสองทวีปนี้ แต่เป็นเพียงบางส่วนของข้อสังเกตที่ถูกรวบรวมมา ซึ่งความแตกต่างเหล่านี้ ก็จะทำให้คุณได้พบกับประสบการณ์ที่ทั้งแปลกใหม่และท้าทายในแบบที่ต่างกัน:)
ที่มา: thisisinsider