แนะนำ 10 วิธีดูแลเท้าให้มีสุขภาพดี ไร้รอยแตกกวนใจ

การดูแลสุขภาพเท้าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพราะหากถ้าละเลยไม่ดูแลให้ดีอาจจะเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และอาจจะทำให้เกิดโรคเชื้อราที่เท้า หรือมีรอยแตกลายงาได้

ใครที่อยากมีสุขภาพเท้าที่ดี ปราศจากกลิ่นเท้า และรอยแตก เราขอแนะนำเคล็ดลับต่อไปนี้ บอกเลยว่าทำตามได้ง่ายสุดๆ เลยล่ะ

 

1. แช่เท้าด้วยน้ำยาบ้วนปาก ผสมน้ำส้มสายชู

ในน้ำยาบ้วนปากมีสารไธมอล และมีแอลกอฮอล์ที่ช่วยฆ่าเชื้อรา และรักษาเท้าแตก รวมทั้งน้ำส้มสายชูจะช่วยให้ผลัดเซลล์ผิวง่ายขึ้น

 

2. สครับเท้าด้วยแป้งข้าวเจ้าผสมกับน้ำผึ้ง และน้ำส้มสายชู

แป้งข้าวเจ้าจะช่วยผลัดเซลล์ผิว ส่วนน้ำผึ้งนั้นจะช่วยรักษารอยแตก และน้ำส้มสายชูจะทำให้ผิวนุ่ม พร้อมทั้งขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หมดไป

 

3. ใช้กล้วยถูบริเวณส้นเท้า

กล้วยจะช่วยคืนความชุ่มชื้นให้แก่เท้า อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามิน A, B6, และ C ที่ช่วยบำรุงให้ผิวมีความยืดหยุ่น และชุ่มชื้นอย่างยาวนาน

 

4. แช่เท้าในน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่น

น้ำผึ้งจะช่วยให้ผิวหนังด้านนอกได้รับการฟื้นฟู ทำให้เท้าดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น

 

5. ทาน้ำมันพืช จากนั้นสวมถุงเท้าทิ้งไว้ข้ามคืน

ในน้ำมันจะอุดมไปด้วยโปรวิตามิน A, D และ E ที่ช่วยบำรุงผิว และสร้างเซลล์ผิวใหม่

 

6. ทาวิคส์วาโปรับบริเวณส้นเท้า นวด 5 นาทีแล้วทิ้งไว้ข้ามคืน

การทาวิคส์วาโปรับทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วล้างออกในตอนเช้านั้น จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น

 

7. แช่เท้าในเบกกิ้งโซดาผสมน้ำ 15 นาที แล้วขัดเซลล์ผิวที่ตายออก

เบกกิ้งโซดาช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วทิ้งไป อีกทั้งยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ นอกจากนี้ยังสามารถขจัดกลิ่นเหม็นได้อีกด้วย

 

8. ขัดส้นเท้า และเช็ดให้แห้งจากนั้นชะโลมด้วยว่านหางจระเข้

ในว่านหางจระเข้มีทั้งวิตามิน A, C และ E ที่จะช่วยคงความชุ่มชื้นแก่ผิว รวมทั้งรักษาแผลบริเวณเท้าได้

 

9. แช่เท้าในน้ำอุ่น 15 นาที จากนั้นหยดน้ำมะนาวลงบนวาสลีน จากนั้นนำมาทาที่เท้า แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน

วาสลีนจะช่วยให้ความชุ่มชื้น นอกจากนี้กรดซิตริกในมะนาวยังสามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ได้

10. แช่เท้าในน้ำอุ่นผสมดีเกลือ 15 นาที แล้วขัดเซลล์ผิวที่ตายออก

ดีเกลือมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ และทำให้ผิวนุ่มขึ้น อีกทั้งซัลเฟตยังช่วยล้างสารพิษ และโลหะหนัก รวมทั้งบรรเทาอาการปวด แถมยังช่วยดูดซับสารพิษออกจากร่างกายได้

 

ใครที่มีปัญหาในเรื่องของการดูแลเท้า เราขอแนะนำวิธีที่น่าสนใจเหล่านี้…อย่าลืมไปลองทำตามกันได้นะ

ที่มา:  brightside

ร่วมแสดงความคิดเห็น...

SHARE

ดูเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ...