นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมแล้ว หลายเมืองทั่วโลกยังมีอาหารที่สามาถดึงดูนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวได้ แต่จะมีที่ไหนบ้างที่มีความหลากหลายของอาหารมากที่สุด จากการวิเคราะห์ข้อมูลร้านอาหารบน Google Map โดย Bott and Co
20. กรุงบรัซเซลส์ – ประเทศเบลเยียม
กรุงบรัซเซลส์เป็นเมืองที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ แม้ว่าที่นี่จะเป็นที่รู้จักของมันฝรั่งทอดและวาฟเฟิล แต่ที่นี่ยังมีอาหารมากกว่า 50 ชนิดที่แตกต่างกันอีกด้วย
19. แวนคูเวอร์ – บริติช โคลัมเบีย
แวนคูเวอร์มีร้านอาหารจาก 52 ชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร้านขาย Hot dog ที่ JAPADOG และพิซซ่าจาไมก้าที่ Jamaican Pizza Jerk
18. ซีแอทเติล – รัฐวอชิงตัน
ที่นี่เคยเป็นที่แรกของร้านกาแฟสตาร์บัคส์ แต่นอกจากร้านกาแฟแล้ว ยังมีร้านอาหารจาก 52 ชาติ ซึ่งเป็นร้านอาหารในระดับประเทศอีกด้วย
17. พอร์ทแลนด์ – รัฐโอเรกอน
พอร์ตแลนด์มีอาหารจาก 53 ชาติ เมื่องนี้ยังมีร้านอาหารในสไลต์ฟู้ดทรัค รวมถึงรถเข็นอาหารทีมีทุกอย่าง ตั้งแต่อาหารมาตราฐานอเมริกัน บาร์บีคิวเกาหลี เปรู และมอริเชียส
16. กรุงมาดริด – ประเทศสเปน
กรุงมาดริดมีร้านอาหารประจำชาติถึง 52 แห่ง แต่ยังมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เช่น churros con เสิร์ฟพร้อมช็อกโกแลต และ patatas bravas มันฝรั่งทอดที่มีรสเผ็ดเล็กน้อย
15. ฟิลาเดลเฟีย – รัฐเพนซิลวาเนีย
ที่นี่มีร้านอาหารประจำชาติ 54 แห่ง โดยเฉพาะร้าน Cheesesteak ซึ่งถือเป็นร้านที่ดีที่สุดในเมืองนี้
14. ซิดนีย์ – ประเทศออสเตรเลีย
ซิดนีย์มีร้านอาหารประจำชาติ 56 แห่ง และนี่คือขนมปังนางฟ้าซึ่งถือว่าเป็นตัวอย่างของอาหารท้องถิ่นในเมืองนี้
13. บอสตัน – รัฐเมซซาชชูเซสส์
บอสตันเป็ยเมืองที่มีขนาดใหญ่มีร้านอาหารกว่า 57 ร้าน ที่นี่จะมีอาหารคลาสสิกในสไตล์อังกฤษอยู่ เช่นซุปหอยและบอสตันครีมพาย
12. โตเกียว – ประเทศญี่ปุ่น
ในโตเกียวมีร้านอาหารประจำชาติ 58 แห่ง แม้ว่า washoku อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมจะถูกเพิ่มลงในรายการมรดกทางวัฒนธรรมของยูเนสโกในปี 2013
11. มอนทรีออล – ประเทศแคนาดา
ที่มอนทรีออล คุณสามารถอิ่มเอมกับเบเกิลและขนมอบที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้ แต่เมืองนี้ยังมีเมนูจากหลาายหลายประเทศให้เลือก ได้แก่ มอริเชียส เช็ก ฮังการี ไทย ตุรกี นิวซีแลนด์ และชิลี
10. ซานฟรานซิสโก – รัฐแคลิฟอเนีย
ซานฟรานซิสโกมีร้านอาหารจาก 60 ชาติ แต่ในจำนวนดังกล่าวมีคุกกี้ martinis ขนมปัง sourdough และ mimosas อยู่ด้วย
9. ลอสแองเจลิส – รัฐแคลิฟอเนีย
ลอสแองเจลิสเป็นที่รู้จักกันดีในด้านอาหารที่หลากหลายและราคาถูก ไม่ว่าจะเป็น อาหารเม็กซิกันฟิวชั่น อาหารเกาหลี อาหารเมดิเตอร์เรเนียน และอาหารคิวบาที่มีราคาไม่แพง
8. ดูไบ – สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
อาหารดูไบ เป็นส่วนผสมของอาหารอิหร่าน เลบานอน และอารบิก เมืองนี้เป็นแหล่งวัฒนธรรมการปรุงอาหารที่แตกต่างจากทั่วโลกโดยมีอาหารที่แตกต่างกันมากถึง 64 ประเทศ
7. กรุงเบอร์ลิน – ประเทศเยอรมนี
กรุงเบอร์ลินคือเมืองหลวงของเยอรมนี เป็นที่รู้จักของ schnitzels และ pretzels ซุปเปอร์และไส้กรอกแกง เป็นเมืองที่มีความหลากหลายของอาหารจาก 64 ชาติ
6. เมลเบิร์น – ประเทศออสเตรเลีย
ที่เมลเบิร์น สามารถพบความหลากหหลายของอาหารจาก 64 ชาติ ถือเป็นเมืองสำหรับคนรักอาหารจากทั่วโลก เพราะในอดีตมีการอพยพจาก เม็กซิโก ญี่ปุ่น สเปน เวียตนาม จีน อินเดีย อิตาลี กรีก ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือและฝรั่งเศส
5. กรุงปารีส – ประเทศฝรั่งเศส
ที่ปารีสมีความหลากหลายของอาหารมากถึง 65 ชาติ ไม่ว่าจะเป็น เบนิน แอลจีเรีย โตโก เดนมาร์ก สวิส ปากีสถานและออสเตรเลีย แต่ในฝรั่งเศสยังมีอาหารประจำชาติที่มีความเอกลักษณ์อยู่ เช่น ครัวซองก์สด ซุปหัวหอม เป็นต้น
4. ชิคาโก้ – รัฐอิลลินอยส์
คุณจะพบความหลากหลายของอาหาร 66 แห่งได้ที่ชิคาโก ได้แก่อาหารจาก ลาตินอเมริกา เสฉวน โปแลนด์ เม็กซิกัน อิตาลี และฮอนดูรัส
3. โตรอนโต – ประเทศแคนาดา
โตรอนโตมีความหลากหลายของอาหารจาก 73 ชาติ ไม่ว่าจะเป็น แซนวิชเบคอน ถั่วลิสง เนื้อม้า ทาร์เรส ติ่มซำและ “ก๋วยเตี๋ยวกระดูก”
2. กรุงลอนดอน – สหราชอาณาจักร
เต็มไปด้วยอาหารที่มีความหลากหลายจาก 89 ชาติทั่วโลก อาหารอินเดียเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างได้รับความนิยม ในขณะที่อาหารจากศรีลังกา มาเลย์ เยเมน อาร์กานี และพม่า เป็นอาหารท้องถิ่นเฉพาะกลุ่มที่น่าลองเช่นกัน
1. นิวยอร์ก – นิวยอร์ก
นิวยอร์คเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเมืองที่มีความหลากหลายของอาหารมากที่สุดในโลก ซึ่งมีอาหารจาก 94 ชาติ เช่น ซัลวาดอร์ ตรินิแดด เปรู เซเนกัล เบลารุส ไซปรัส บังคลาเทศ คาซัค และลาว
ที่มา: thisisinsider