ในการสัมภาษณ์งานแต่ละครั้ง ผู้ว่าจ้างต่างก็หวังว่าจะพบกับผู้สมัครที่มีความพร้อมและโดดเด่นกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ บางครั้ง พวกเขาถึงกับอัดวิดีโอขณะสัมภาษณ์งานเพื่อเก็บไว้ใช้พิจารณาภายหลัง
บริษัท Uncubed ก่อตั้งขึ้นใน Brooklyn เมื่อปี 2012 ซึ่งทำงานเกี่ยวกับการจัดดิจกรรมหรือบันทึกวิดีโอโดยอ้างอิงจากฐานข้อมูลงานที่เหล่านายจ้างได้อัปโหลดไว้ และจากการที่พวกเขาได้คลุกคลีกับบริษัทชั้นนำหลายแห่งในนิวยอร์ก จึงได้มีการเก็บข้อมูลและสรุปคร่าวๆ ว่า เหล่านายจ้างมองหาอะไรจากตัวผู้สมัครในการสัมภาษณ์งานบ้าง ดังนี้
1. มองหาคนที่จะเชื่อมั่นในองค์กร
โดยส่วนมากเหล่านายจ้างมักมองหาคนที่มีความชื่นชอบหรือประทับใจกับองค์กรเป็นการส่วนตัวก่อนที่จะมาสมัคร เพราะเชื่อว่าจะสามารถพัฒนาให้บริษัทก้าวหน้าได้ดีกว่า
2. เป้าหมายดึงดูดคนที่ใช่
ในยุคปัจจุบัน โลกธุรกิจอาจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงไม่แปลกหากองค์กรต่างๆ ต้องเพิ่มการต่อสู้เชิงกลยุทธ์
Stacey Olive ผู้อำนวยการบริหารด้านการจัดหาทรัพยากรบุคคลใน New York Times กล่าวว่าเป้าหมายของ Times ดึงดูดผู้สมัครที่ประสบความสำเร็จและพวกเขาได้เห็นอัตราการตอบกลับที่สูงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา (วัดความประสบความสำเร็จจากเรซูเม่)
3. ระวังข้อเสนอที่ล่อตาล่อใจ
บริษัทที่มั่นคงหรือมีชื่อเสียงบางแห่งมักไม่ยื่นข้อเสนอที่ฟังดูน่าคว้าเอาไว้มากมายนัก พวกเขามักจะให้เวลานการไตร่ตรองและทำให้ผู้สมัครที่ได้รับเลือกเกิดความประทับใจในระยะยาวมากกว่า เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายในการทำงานภายภาคหน้า
4. คำถามมักจะมีความหลากหลาย
แทนที่จะถามถึงความรู้หรือการเตรียมความรู้เกี่ยวกับองค์กร หลายบริษัทมักเลือกถามคำถามที่หลากหลายเพื่อให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้สมัครเพิ่มขึ้น และเพื่อมองหาความเข้ากันได้ระหว่างตัวผู้สมัครและองค์กร
5. การดื่มกาแฟร่วมกันดีกว่าการสัมภาษณ์งานที่แสนน่าเบื่อ
ผู้บริหารและฝ่ายสัมภาษณ์งานหลายคนยอมรับว่าพวกเขาชอบการออกไปดื่มกาแฟและพูดคุยกับผู้สมัครมากกว่าการนั่งอยู่ในห้องสัมภาษณ?ให้ความรู้สึกจริงจังจนเกิดจำเป็น เพราะนอกจากความผ่อนคลายจากบรรยากาศที่น่าอึดอัดแล้ว ผู้สมัครที่สามารถเป็นตัวเองได้ยังช่วยให้พิจารณาได้ง่ายกว่า
6. ควรทำให้ฝ่ายบุคคลประทับใจ
ไม่ว่าคุณจะได้งานหรือไม่ การแสดงความขอบคุณเช่นการส่งอีเมลล์ หรือการส่งจดหมายมักจะทำให้ฝ่ยบุคคลประทับใจและชอบคุณมากขึ้น ซึ่งนั่นอาจเป็นประโยชน์อย่างน้อยก็ทำให้ในการสัมภาษณ์งานครั้งต่อไปคุณจะกลายเป็นคนที่น่ารักมากในสายตาพวกเขา
7. ผู้สมัครไม่สามารถโกงการทดสอบ “สนามบิน” ได้
อาจฟังดูชวนสงสัยว่านี่คืออะไร มีหลายบริษัทมักทำการทดสอบและจับตาดูคุณตั้งแต่การแต่งตัว ประสบการณ์ ความสามารถ หรือแม้แต่อากับกิริยาแรกที่คุณแสดงออก และแน่นอนว่าพวกเขาจะตัดสินคุณด้วยเกณฑ์ง่ายว่า “เราจะสามารถอยู่ร่วมกับคนแบบนี้ในสนามบินถึง 12 ชั่วโมงได้หรือไม่?”
8. ข้อได้เปรียบไม่ใช่ทุกสิ่งเสมอไป
แน่นอนว่าข้อได้เปรียบบางประการอาจทำให้คุณดูโดดเด่น แต่ถ้าหากว่าความโดดเด่นนั้นสวนทางกับสิ่งที่บริษัทกำลังมองหา หรือคุณอาจถูกมองว่าโดดเด่นมากจนเกินไปการสัมภาษณ์งานในครั้งนั้นอาจเป็นเพียงประสบการณ์ดีๆ ที่ล้มเหลว
9. การฝึกงานเป็นอีกหนึ่งหนทางยอดนิยม
การฝึกงานเป็นหนึ่งในวิธีที่บริษัทต่างๆ กำลังนิยมใช้เพื่อค้นหาพนักงานใหม่ ซึ่งพวกเขาจะได้เห็นทั้งทักษะการทำงานและการปรับตัวของว่าที่พนักงานเหล่านั้นอย่างเต็มที่
10. พวกเขามักมองหาคนที่เหมือนกัน
แม้ใครๆ อาจจะคิดว่า บริษัทต่างๆ ต้องการคนที่เก่งที่สุดหรือคนที่พร้อมมากที่สุด ในความเป้นจริงแล้ว พวกเขามักมองหาคนที่คล้ายกันมากที่สุดเพื่อมาทำงานร่วมกันเป็นทีม เพื่อลดความขัดแย้งและการทำงานที่ราบรื่น นอกจากนี้หากสมากในทีมสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดีก็จะส่งผลให้บริษัทสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ดีกว่าด้วย
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เป็นปัจจัยของบริษัทต่างๆ ซึ่งในความจริงแล้วพวกเขาอาจมีเงื่อนไขในการรับใครสักคนมาเป็นสมาชิใหม่มากกว่านี้ อาจต้องมีการพูดคุยและฝึกฝนตัวเองเรื่อยๆ ก่อนจะเริ่มการสัมภาษณ์ครั้งใหม่อีกครั้ง
ที่มา : time.com