ตั้งแต่ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ข่าวของ Donald Trump ในแง่ต่างๆ ก็ถูกนำเสนออย่างไม่ขาดสาย แม้ว่าในส่วนมากจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานที่มีรูปแบบที่ประชาชนบางส่วนไม่ชอบใจ
อย่างล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สำนักข่าว Washington Post ได้เผยว่า คณะบริหารของ Trump ได้แจ้งต่อนักวิเคราะห์นโยบายของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกี่ยว (CDC) กับคำต้องห้าม 7 คำในเอกสารงบประมาณปี 2018 นั่นก็คือ
– vulnerable (อ่อนไหวหรือสุ่มเสี่ยง)
– diversity (ความหลากหลาย)
– entitlement (สิทธิตามสถานะ)
– transgender (คนข้ามเพศ)
– fetus (ตัวอ่อนในครรภ์)
– evidence-based (หลักฐานเชิงประจักษ์)
– science-based (หลักฐานทางวิทยาศาสตร์)
ตามเนื้อหาข่าวที่ออกมา ไม่มีการอธิบายใดๆ จากผู้บริหารที่ร่วมประชุมถึงเหตุผลที่คำเหล่านี้ถูกห้ามใช้ ทางด้าน CDC และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ยังไม่มีการออกมาให้ความเห็นอะไรในเรื่องนี้
แต่การออกคำสั่งดังกล่าว ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญในวงการแพทย์ นักรณรงค์ และนักการเมืองออกมาวิจารณ์กันในวงกว้าง อย่าง จิตแพทย์ชื่อดัง David Reiss ได้เขียนข้อความลงบนทวิตเตอร์ว่า
“เรื่องนี้เป็นการทำร้ายความจริง Trump กำลังพยายามลบองค์ความรู้ สถานภาพของบุคคล และการพูดคุยกันอย่างมีเหตุผลให้หายไป ด้วยการห้ามใช้คำต่างๆ ซึ่งนี่ไม่ใช่ประเด็นการเมืองหรือการฝักใฝ่ความคิดการเมือง แต่เป็นการเข้าควบคุมสังคมโดยกลุ่มชนชั้นปกครองที่ไม่ฟังผู้อื่น”
ด้านสมาพันธ์ Planned Parenthood Federation of America ซึ่งเป็นองค์กรที่มีคลินิกตรวจสุขภาพสตรีซึ่งรับทำแท้ง กล่าวว่า
“เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันไม่เห็นคุณค่าของสุขภาพสตรี กลุ่มความหลากหลายทางเพศ LGBT และความรู้ทางวิทยาศาสตร์ตั้งแต่วันแรกที่เข้าบริหารประเทศ”
และหน่วยงานด้านสิทธิด้านความหลากหลายทางเพศ Legal Lambda กล่าวว่า
“แทบไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่ เขาจะไม่สามารถลบพวกเราออกไปได้”
นอกจากกลุ่มคนในชุมชนวิทยาศาสตร์แล้ว Ted Lieu สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต ก็ได้เขียนข้อความลงในทวิตเตอร์ว่า
“รัฐบาลของ Donald Trump ทำให้อเมริกาดูโง่อีกครั้ง ถ้า CDC ห้ามใช้คำว่า science-based และ evidence-based แล้วจะให้เราใช้อะไรรักษาโรค? ศาสตร์วูดูเหรอ?”
นับตั้งแต่การเข้าบริหารประเทศของประธานาธิบดี Donald Trump เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นตัวอันตรายที่ปฏิเสธวิทยาศาสตร์ และพยายามปรับนโยบายเสรีนิยมอย่างที่เคยมีมาในสมัยอดีตประธานาธิบดี Obrama
นอกจากการสั่งห้ามใช้คำทั้ง 7 นี้ที่ทำให้เขาถูกมองปฏิเสธวิทยาศาสตร์ และกำลังพยายามลบความจริง หน่วยงานอย่าง Environmental Protection Agency ที่เปรียบเหมือนกระทรวงสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ ก็ไม่มีการพูดถึงภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติ หรือ climate change บนเว็บไซต์ รวมถึงห้ามนักวิทยาศาสตร์ของหน่วยงานนี้เสนอรายงานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ climate change ด้วย
เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่ถูกวิพากษ์ว่ารุนแรงและอันตราย แต่ยังเป็นส่งผลกระทบในวงกว้าง มีผู้ออกมาชุมนุมต่อต้านและเรียกร้องมากมาย เราอาจต้องรอดูต่อไปว่านโยบายที่ถูกนำเสนอเหล่านี้จะมีผลในอนาคตต่อไปอย่างไร
ที่มา : edition.cnn.com