ในปี 1958 สหรัฐอเมริกาและแคนาดาร่วมกันลงมือก่อสร้างโครงการ Seaway Project เป็นโครงการวิศวกรรมขนาดใหญ่เกี่ยวกับการสร้างช่องทางเดินเรือยาว 600 กิโลเมตรเพื่อช่วยให้เรือเดินทางมาจากมหาสมุทรแอตแลนติกได้ง่ายขึ้น ทั้งยังเพื่อให้พลังงานไฟฟ้าและพลังงานกับภูมิภาคนี้ด้วย
หลังจากการก่อสร้าง Saint Lawrence Seaway นานกว่า 4 ปี ก็สำเร็จเพราะแม่น้ำ Saint Lawrence สามารถไหลจากทะเลสาบ Ontario ไปยังมหาสมุทรแอตแลนติกได้อย่างสมบูรณ์ และวันที่ 1 กรกฎาคม 1958 ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเขื่อนกั้นน้ำขนาดเล็กที่สร้างไว้กักเก็บน้ำชั่วคราวถูกลมพัดปลิวออกจากกัน ส่งผลให้ชุมชนเล็กๆ ริมแม่น้ำแคนาดาใน Ontario ใกล้ Cornwall จมหายไปใต้น้ำ
รวมๆ แล้วมีมากกว่า 9 หมู่บ้านด้วยกันคือ Aultsville, Dickinson’s Landing, Farran’s Point, Maple Grove, Mille Roches, Moulinette, Santa Cruz, Wales และ Woodlands ซึ่งถูกขนามนามว่า “หมู่บ้านที่สูญหาย” (The Lost Villages)
น้ำเข้าท่วมพื้นที่ทางเกษตรกรของชาวบ้านไปกว่า 8,000 ไร่ และมีคนพลัดหลงกว่า 6,500 คนเลยทีเดียว ที่อยู่อาศัยถูกน้ำพัดพังทลาย รวมถึงโรงเรียน บ้าน ทางหลวง ทางรถไฟล้วนแล้วแต่จมอยู่ใต้น้ำ และหลายถนนยังคงจมอยู่ใต้น้ำในปัจจุบัน
และในปี 1977 หมู่บ้านที่หายไปก็กลายเป็นเรื่องราวสำคัญในประวัติศาสตร์เพื่อให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับการสูญเสียที่อยู่เดิม รวมถึงแม่น้ำ Saint Lawrence จึงมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นมา โดยมีการกู้ซากบ้านมาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ให้คนรุ่นหลังได้ทำการศึกษากันต่อไป
มุมมองทางอากาศของบ้านที่จมอยู่ใต้น้ำ รวมถึงถนนและโครงสร้างอื่นๆ
ข้อมูลจาก: clipmass, amusingplanet
