เมื่อนานมาแล้วทางเว็บไซต์ของเราได้เคยนำเสนอเรื่องราวของ Matthew Youlden ชายหนุ่มผู้ที่สามารถพูดได้อย่างคล่องแคล่วมากถึง 9 ภาษา สำหรับใครที่อยากทำความรู้จักเค้าเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่บทความเก่า มาทำความรู้จักกับ Matthew Youlden ชายที่พูดได้อย่างน้อยกว่า 9 ภาษาอย่างคล่องแคล่ว!! ได้เลยครับ
สำหรับในบทความนี้ ผมก็เลยมีคำแนะนำดีๆจากเค้าคนนี้มาฝาก เป็นเคล็ดลับในการเรียนภาษาทั้งหมด 10 ข้อด้วยกัน ใครที่อยากเก่งภาษาเหมือนกับชายหนุ่มคนนี้ ก็ลองเอาเคล็ดลับดีๆแบบนี้ไปใช้กันดูนะครับ จะมีอะไรบ้างลองติดตามกันได้เลย
1. รู้เหตุผลของตัวเอง
แน่นอนว่าถ้าคุณไม่มีเหตุผลที่ดีมากพอ คุณก็คงไม่เลือกที่จะเรียนภาษาหรอกใช่ไหมหล่ะ เพราะว่าในการทำอะไรสักอย่าง หากไม่มีแรงจูงใจ ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรนานๆได้ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเรียนภาษาฝรั่งเศษเพียงเพราะว่าใครๆเห็นว่าเป็นภาษาที่ไพเราะ นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ดีเลย คุณไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ด้วยเหตุผลเพียงแค่นั้นแน่
2. ตามหาคู่หู
Matthew เรียนภาษาไปพร้อมๆกับ Michael พี่ชายฝาแฝดของเขานั่นเอง ท้งคู่เป็นที่รู้จักในนาม Super Polyglot Bros. ซึ่งภาษาแรกที่พวกเขาเรียนคือภาษากรีก ในวัยเพียง 8 ขวบเท่านั้น ทั้งคู่เป็นแรงจูงใจให้แก่กันและกัน ช่วยผลักดันซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าคุณอยากเรียนภาษาให้ได้แบบทั้งสองคนนี้แล้วละก็ ลองมาหาเพื่อนสักคนที่มีแรงบันดาลใจในการเรียนภาษาที่เหมือนๆกัน รับรองว่าไปได้สวยแน่นอน
3. พูดกับตัวเอง
ในเวลาที่คุณอยู่คนเดียว ให้ฝึกพูดกับตัวเอง มามองว่าเป็นเรื่องที่บ้าบอ เพราะมันคือการฝึกฝน ซึ่งการพูดกับตัวเองจะช่วยตัดปัญหาในเรื่องการเขินอายออกไปได้ ลองอัดเสียงที่พูดกับตัวเองแล้วนำมาฟัง จะช่วยให้มองเห็นข้อผิดพลาดของตัวเอง และแก้ไขได้ถูกจุด
4. นำไปใช้จริง
ที่คุณเรียนภาษาที่เพื่อที่จะใช้มันในการสื่อสารกับผู้อื่น ไม่ได้ใช้พูดกับตัวเอง สมองในส่วนทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์จะมีประสิทธิภาพในการเรียนรู้ภาษาผ่านการเขียน การพูดคุย การสื่อสาร พูดง่ายๆคือถ้าอยากจะเก่งภาษา คุณต้องนำมันไปใช้จริงๆ
5. สนุกไปกับมัน
เปลี่ยนการเรียนรู้ที่น่าเบื่อ ให้เป็นเรื่องสนุก สองพี่น้อง Matthew และ Michael สนุกกับการเรียนภาษากรีก ผ่านการแต่งเพลงเป็นภาษากรีกด้วยกัน คุณอาจจะลองมองหาสิ่งที่คุณชอบ แล้วเชื่อมโยงการเรียนภาษาลงไป เช่น แสดงบทละคร เขียนบทกลอน โดยใช้ภาษาที่คุณกำลังเรียนรู้ เพียงเท่านี้การเรียนภาษาของคุณก็จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
6. ทำตัวให้เหมือนเด็ก
ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการกระทำตัวให้เหมือนเด็ก แต่ให้เข้าใจระบบการเรียนรู้ภาษาของเด็ก อย่างที่เรารู้ว่าเด็กจะมีพัฒนาการในการเรียนภาษาได้ดีกว่าผู้ใหญ่ แต่งานวิจัยล่าสุดเปิดเผยแล้วว่า ไม่สามารถยืนยันความเชื่อมโยงกันระหว่างอายุ และความสามารถในการเรียนภาษาได้ แต่กุญแจสำคัญที่ทำให้เด็กเรียนรู้ภาษาได้ดีนั่นก็คือ การไร้ซึ่งความประหม่าในตนเอง การตัดสินใจที่จะเล่นกับภาษา และความตั้งใจที่จะพบกับความผิดพลาด เด็กนั้นเรียนรู้จากการผิดพลาด แต่ผู้ใหญ่กับมองว่าความผิดพลาดซื่อจุดด้อย ฉะนั้นถ้าอยากเก่งภาษา ต้องมีมุมมองในการเรียนภาษาที่เหมือนเด็ก
7. พาตัวเองออกมาจากความสะดวกสบาย
ความตั้งใจที่จะพบกับความผิดพลาด หมายความว่าคุณพร้อมที่จะอยู่ในสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดความอับอายได้ มันอาจจะฟังดูน่ากลัวสำหรับใครหลายคน แต่นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของคุณเอง พาตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ถูกบีบบังคับให้ต้องใช้ภาษา กล้าเผชิญหน้ากับเจ้าของภาษา อย่ากลัวความผิด อย่าอายที่จะพูด หากคุณยังทำตัวสบายๆอยู่กับบ้านแล้วละก็ อย่าหวังเลยว่าคุณจะเก่งภาษาขึ้นมาได้
8. ฟัง
ก่อนที่จะฝึกพูด ต้องเรียนรู้ที่จะฟังให้ได้ก่อน ทุกๆภาษาอาจจะฟังดูแปลกในครั้งแรก แต่ถ้าหากว่าคุณสามารถฝึกฝนในการฟังและมีความเคยชินไปกับมันแล้วละก็ การฝึกพูดก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปอย่างแน่นอน
9. ดูคนอื่นพูด
พยายามสังเกตุเจ้าของภาษาว่าเค้าพูดอย่างไร ออกเสียงอย่างไร แนะนำว่าให้ลองสังเกตุจากการดูข่าว ภาพยนตร์ รายการทีวี หรือถ้าจะให้ดีที่สุดก็คือการพูดคุยกับเจ้าของภาษาโดยตรง เมื่อเราสังเกตุได้แล้วก็ได้ฝึกพูดตาม
10. จมดิ่งไปกับภาษา
ใช้ภาษาให้มากที่สุด มากเท่าที่จะมากได้ พยายามนำมันมาใช้ในชีวิตประจำวัน แม้กระทั่งความคิด ก็ให้พยายามคิดเป็นภาษานั้น สุดท้ายนี้จำไว้ว่า ผลลับในการเรียนภาษาที่ดีที่สุด คือการพูดให้คู่สนทนาเข้าใจ และคู่สนทนาตอบกลับมาแล้วเราเข้าใจได้ นั่นแหละเท่ากับว่าคุณประสบความสำเร็จในการเรียนภาษานั้นๆแหละหล่ะครับ
ข้อมูลจาก: babbel
