โดยทั่วไปแล้วเราจะคิดว่า ผักและผลไม้ สามารถรับประทานเท่าไหร่ก็ได้ ไม่ทำให้อ้วน แต่นั่นไม่จริงทั้งหมด เพราะถึงแม้ว่าผักและผลไม้ทุกชนิดจะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ถ้าคุณต้องการลดน้ำหนักก็ควรจำกัดปริมาณการรับประทานผักและผลไม้บางชนิดไว้ เนื่องจากจส่งผลต่อน้ำหนักได้นั่นเองครับ
1. ผลไม้เขตร้อน
เช่น มะม่วงและสับปะรด แม้ว่าจะมีรสชาติอร่อยแต่ก็มีปริมาณน้ำตาลและแคลอรี่สูงกว่าผลไม้ชนิดอื่น คุณอาจจะเก็บไว้ในโอกาสพิเศษหรือเปลี่ยนเป็นผลไม้ชนิดอื่นแทน เช่น แอปเปิ้ล ซึ่งมีแคลอรี่ต่ำและเส้นใยอาหารสูง หากต้องการลดน้ำหนักคุณควรเลือกผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำ
2. ผลไม้อบแห้ง
เนื่องจากผลไม้อบแห้งมีการดูดน้ำออกไปทำให้แคลอรี่สูงขึ้นในปริมาณที่น้อยลง ยกตัวอย่างเช่น ลูกเกดอบแห้งหนึ่งถ้วยจะมีปริมาณแคลอรี่เกือบ 500 ขณะที่ลูกพรุนอบแห้งหนึ่งถ้วยมีแคลอรี่ถึง 447 ดังนั้นคุณควรควบคุมสัดส่วนในการรับประทานอย่างเข้มงวด
3. อะโวคาโด้
นี่คือหนึ่งในผลไม้ที่มีปริมาณไขมันและแคลอรี่สูง อะโวคาโด้บดหนึ่งถ้วยมีแคลอรี่มากถึง 384 อย่างไรก็ตามไขมันในอะโวคาโด้ดีต่อสุขภาพหัวใจและร่างกาย ดังนั้นการรับประทานอะโวคาโด้ทุกวันไม่มีผลเสียแต่อย่างใด แต่อาจจะต้องจำกัดปริมาณในการรับประทานเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อน้ำหนักตัว
4. มันบด
มันฝรั่งไม่ใช่ผักที่มีแคลอรี่ต่ำที่สุด มันบดหนึ่งถ้วยมีแคลอรี่ 249 ขณะที่มันฝรั่งทั่วไปที่ยังไม่ปอกเปลือกจะมีแคลอรี่ 212 และถั่วลิมาหนึ่งถ้วยมีแคลอรี่ 202 ทั้งนี้ผักใบเขียวชนิดต่างๆ เช่น ผักกาดหอม ผักโขม ผักคะน้า จะมีแคลอรี่ต่ำกว่า 20
5. น้ำผักรวม
การรับประทานผักในปริมาณที่ร่างกายต้องการทุกวันอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่คุณสามารถทำน้ำผักรวมได้ น้ำผักส่วนใหญ่ที่มีรสชาติคล้ายกับน้ำผลไม้จะมีปริมาณน้ำตาลกับเกลือมากกว่าที่ร่างกายต้องการ ขณะที่คุณรับประทานผักและผลไม้ทุกวันคุณก็จะได้รับโซเดียมในปริมาณที่เพียงพอตลอดทั้งวันเข้าไปด้วย ทั้งนี้อย่าลืมอ่านฉลากโภชนาการทุกครั้งก่อนซื้อ
ข้อมูลจาก: issue247, skinnymom