บนโลกใบนี้มีสถานที่สำคัญทางประวัตศาสตร์ให้เราได้ศึกษาอยู่มากมาย แต่ก็มีอยู่จำนวนไม่น้อย ที่ต้องถูกทำลายลงโดยสิ่งที่เรียกว่า “สงคราม”
ในบทความนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ “19 สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์” ที่เพื่อนๆจะไม่มีโอกาสได้เห็นมันอีกแล้ว เนื่องจากถูกทำลายจากสงครามและความขัดแย้งไปแล้วนั่นเองครับ
1.Great Mosque of Samarra
ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ถูกทำลายส่วนยอด และกำแพงบางส่วนไปในปี 2005
2.The Buddhas of Bamyan, Afghanistan
หนึ่งในศาสนสถานที่มีความสำคัญของศาสนาพุทธ และมีพระพุทธรูปที่มีความสูงถึง 53 เมตร มีอายุยืนยานมากว่า 1,500 ปี ท้าทายลมแดดลมฝน จนกระทั่งมาถูกทำลายลงด้วยระเบิดไดนาไมต์ในที่สุด
3.The ancient city of Bosra, Syria
อดีตศูนย์กลางอาณาจักรโรมัน มีโรงละครขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 ปัจจุบันเสียหายย่อยยับจากการถล่มของปืนใหญ่
4.The Great Mosque of Aleppo, Syria
มรดกโลกที่สร้างขึ้นในปี 715 โดยราชวงศ์ Umayyad ได้รับการขนานนามให้เป็นมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ปัจจุบันนี้ได้รับความเสียหายรุนแรงจากสงครามกลางเมืองในซีเรีย ตั้งแต่ปี 2013
5.Norias of Hama, Syria
ระหัดวิดน้ำโบราณขนาดใหญ่กว่า 20 เมตร สำหรับใช้ในระบบชลประทานในสมัยศตวรรษที่ 5 ที่กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมประจำเมือง Hama กระทั่งมันถูกเผาเสียหายจากสงครามไปเมื่อปี 2014
6.Citadel of Aleppo, Syria
ป้อมปราการยิ่งใหญ่ ตั้งตระหง่านรบศึกมานับไม่ถ้วนมาตั้งแต่สมัยอเล็กซานเดอร์มหาราช จวบจนถึงยุคอาณาจักรโรมัน มองโกล และออตโตมัน น่าเสียดายที่ปัจจุบันถูกเอาไปใช้เป็นฐานที่มั่นทางการทหาร และจากการปะทะล่าสุดนั้นก็สร้างความเสียหายให้ป้อมแห่งนี้อย่างสาหัสเช่นกัน
7.Aleppo Soak, Syria
ย่านการค้าเก่าแก่ในอุโมงค์ที่อดีตเคยเป็นที่แลกเปลี่ยน ค้าขายสินค้าทั้งผ้า อาหาร เครื่องประดับ ของมีค่าจากต่างอาณาจักร ที่ตอนนี้ถูกถล่มจนเสียหายในระดับที่ยากต่อการซ่อมแซม
8.Deir Ez-zor bridge, Syria
สะพานแขวนที่สร้างโดยประเทศฝรั่งเศส เป็นเส้นทางเดินชมแม่น้ำ Euphrates และถูกถล่มเละไปแล้วเพราะว่ามันเป็นเส้นทางหลักในการส่งเสบียงระหว่างสู้รบ
9.Nimrud, Iraq
ที่นี่เคยเป็นเหมือนอาณาจักรโบราณที่มีสมบัติอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ทั้งหินสลัก รูปปั้น เพชรนิลจินดา จนเมื่อปี 2003 เกิดการปล้นครั้งใหญ่ ของส่วนใหญ่ที่นี่ถูกขโมยหายเกือบหมด สืบทราบว่าถูกนำไปขายให้กับพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ต่างแดนนั่นเอง
10.Crac des Chevaliers, Syria
ปราสาทที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 11 ใช้สู้รบในสงครามครูเสด ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2006 จนกระทั่งปี 2013 ที่นี่ก็ถูกถล่มจนราบโดยการโจมตีทั้งทางอากาศ และกระสุนปืนใหญ่ เพื่อปราบกองกำลังกบฎที่ซ่อนตัวอยู่ภายใน
11.Jonah’s Tomb, Iraq
สถานที่ฝังร่างของนบียูนุส (โยนาห์) ตามพระคัมภีร์ สุสานนี้ถูกสร้างในช่วงศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาล และเป็นสถานที่สำคัญของชาวมุสลิม ปัจจุบันถูกทำลายทิ้งโดยกลุ่ม ISIS ในปี 2014
12.Khaled Ibn Walid Mosque, Syria
หนึ่งในมัสยิดที่สร้างตามรูปแบบออตโตมัน คือมีการใช้สีทั้งเข้ม และสีอ่อนที่ตัดกันอย่างชัดเจน โชคไม่ดีเลยว่าที่นี่เป็นตำแหน่งที่อยู่แนวหน้าสุดของการปะทะในสงคราม ดังนั้นจึงถูกทำลายเสียหายยับเยิน
13.Palmyra, Syria
องค์การ UNESCO ยกย่องสถานที่แห่งนี้เป็นดั่ง “โอเอซิสแห่งทะเลทรายซีเรีย” ตั้งตระหง่านท้าลมแดดมาตั้งแต่ยุคก่อนคริสตกาล และเป็นตัวแทนสะท้อนถึงศิลปกรรมสมัย เกรโค-โรมัน และเปอร์เซีย แต่ขณะนี้ที่นี่กำลังเผชิญกับปัญหารุนแรง ทั้งความเสียหายจากสงคราม รวมไปถึงถูกปล้นเอาชิ้นส่วนที่มีค่าไปขายจนแทบไม่เหลืออะไรแล้ว
14.Armenian genocide museum, Syria
อนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอาร์เมเนียช่วงปี 1915 – 1923 ภายในยังมีศาสนสถาน และพิพิธภัณฑ์รวมอยู่ด้วย ปัจจุบันถูกเผาทำลายจนหมดสิ้นเมื่อปี 2014
15.Cyrene, Libya
ในอดีตที่นี่เคยเป็นเมืองสำคัญของชาวกรีก และโรมัน สร้างขึ้น 630 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นที่ตั้งของวิหารบูชาเทพี Cyrene พระชายาแห่งเทพ Apollo ถูกทำลายสิ้นในช่วงเหตุการณ์ปฏิวัติประเทศลิเบีย
16.Museum of Islamic Art, Egypt
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกสร้างมาเพื่อเก็บรวบรวมของมีค่าทางประวัติศาสตร์ของประเทศ แต่หลังจากเปิดได้ไม่นาน ก็มาเสียหายเพราะเกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่มุ่งเป้าไปยังสถานีตำรวจข้างๆ ความรุนแรงจากระเบิดครั้งนั้นทำให้พิพิธภัณฑ์ต้องปิดปรับปรุงไปอีกนาน
17.Quaid e Azam residency, Pakistan
อาคารไม้เก่าแก่อายุกว่า 121 ปี เคยใช้เป็นที่พักของผู้ว่าราชการคนแรกของปากีสถาน นายพล Muhammed Ali Jinnah แต่แล้วในปี 2013 ที่นี่ก็ถูกจรวดที่ยิงโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนพังถล่มราบคาบ
18.Al-Omari Mosque, Gaza
มัสยิดโบราณ ใจกลางเมือง Jabalya ที่ส่วนกำแพง โดม และหลังคาถูกทำลายจากการโจมตีทางอากาศ ในช่วงเกิดสงครามในเขตกาซ่า
19.Old Beirut, Lebanon
การสู้รบที่ต่อเนื่องยาวนานถึง 15 ปีในเลบานอนนั้นรุนแรงมาก ถึงขั้นทำให้เมืองที่ครั้งหนึ่งถูกเรียกว่าเป็น “กรุงปารีสแห่งดินแดนตะวันออกกลาง” หลงเหลือเพียงความทรงจำ ในอดีตนั้นเมืองนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบผสมผสาน ทั้งออตโตมัน และฝรั่งเศส โชคยังดีว่าหลังสำรวจแล้วยังมีอาคารรูปแบบนี้หลงเหลืออยู่ 400-1200 หลัง
ที่มา: Truelife
