เพื่อนๆคนไหนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ ชื่นชมความสวยงามของภูเขาและป่าไม้ รวมไปถึงบรรดาสัตว์นานาชนิด รับรองว่าจะต้องชอบสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมจะนำมาเสนอในวันนี้อย่างแน่นอน นั่นก็คือ อุทยานแห่งชาติที่สวยที่สุดในเอเชีย ซึ่งผมได้นำมาให้รู้จักกันถึง 10 แห่งด้วยกันดังนี้ครับ
1. Masada National Park : ประเทศอิสราเอล
แหล่งท่องเที่ยวที่ผสมระหว่างประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ตั้งอยู่บนที่ราบทางตะวันออกของทะเลทราย Judean และทะเล Dead Sea มีพระราชวังโบราณ (Herod the Great’s palaces) อยู่ด้านใน และเป็นสถานที่ฆ่าตัวตายหมู่ของกบฏชาวยิวจากการล้อมจับของทหารโรมัน เพื่อประกาศชัยชนะและศักดิ์ศรี
2. Jiuzhai Valley National Park : ประเทศจีน
ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเทือกเขาหมินซานทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน นอกจากทะเลสาบและน้ำตกที่สวยงามตระการตาแล้ว ที่นี่ยังเป็นบ้านของกล้วยไม้นานาพันธุ์ และสัตว์อนุรักษ์ อย่างหมีแพนด้าอีกด้วย
3. Fuji Hakone Izu National Park : ประเทศญี่ปุ่น
เป็นอุทยานที่มีนักท่องเที่ยวจากหลายชาติทั่วโลกเข้าชมมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่เป็นบ้านของภูเขาไฟฟูจินั่นเอง นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าประทับใจอย่าง ทะเลสาบฟูจิทั้งห้า, บ่อน้ำพุร้อนฮะโกะเนะ, คาบสมุทรอิซุ และเกาะอิซุ
4. Sundarbans National Park : ประเทศอินเดีย
อุทยานแห่งนี้เป็นพื้นที่ป่าชายเลนแบบผืนเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีเนื้อที่มากถึง 4,000 ตารางไมล์ ตั้งอยู่บนพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำคงคา แม่น้ำพรหมบุตร และแม่น้ำเมฆนา และยังเป็นพื้นที่สุดท้ายที่มีเสือเบงกอลป่าอาศัยอยู่
5. Göreme National Park : ประเทศตุรกี
เป็นพื้นที่พิเศษเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว ด้วยลักษณะที่มีรูพรุนเข้าไปในภูเขาทำให้มีคนหัวใสย้ายเข้าไปตั้งถิ่นฐานเป็นบ้านถ้ำมาหลายศตวรรษ
6. Khao Sok National Park : ประเทศไทย
ศูนย์กลางของ “ขุนเขาแห่งป่าฝน” เป็นผืนป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุด ที่นี่เป็นบ้านตามธรรมชาติของเสือ ช้าง สมเสร็จ ลิง และสัตว์ป่าอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์ที่อยากมาเห็นสักครั้งก็คือ “บัวผุด” เป็นพันธุ์ไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกที่มีเส้นผ่าศูนยกลาง 35 นิ้วเลยทีเดียว
7. Hallasan National Park : ประเทศเกาหลีใต้
ตั้งอยู่บนเกาะเซจู (Island of Jeju) บนยอดเขาฮัลลาซานนั้นเคยเป็นบริเวณปากปล่องของภูเขาไฟ ซึ่งดับสนิทแล้วในปัจจุบัน ทำให้เกิดทะเลสาบเล็กๆ ขึ้น ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงาม นอกจากนี้ที่นี่ยังเต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ด้วยสภาพภูมิอากาศที่มีความหลากหลายของเกาะ ตั้งแต่กึ่งเขตร้อนไปจนถึงค่อนข้างหนาวจัด
8. Gunung Gede Pangrango National Park : ประเทศอินโดนีเซีย
ที่นี่เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีถึง 2 ภูเขาไฟในทางตะวันตกของชวา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเต็มไปด้วยพืชพันธุ์หายากของโลกที่แทบจะไม่มีขึ้นที่ไหนยกเว้นที่นี่เท่านั้น และยังมีสัตว์ป่าหายากด้วยเช่นกัน เช่น เสือดาว เป็นต้น นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ของอุทยานยังเป็นไร่ชาอีกด้วย
9. Kenting National Park : ประเทศไต้หวัน
ที่ที่รายล้อมไปด้วยแนวปะการัง และชายหาดที่สวยสะดุดตา ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศไต้หวัน ที่นี่มีประภาคารสูงเด่นสีขาวที่เรียกว่า “Eluanbi Lighthouse” ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิก และช่องแคบไต้หวัน นักท่องเที่ยวนิยมมาที่นี่เพื่อนทำกิจกรรมสนุกๆ ทางทะเล ทั้งว่ายน้ำ, ดำน้ำลึก, ดำน้ำตื้น และขี่เจ็ทสกี
10. Nikko National Park : ประเทศญี่ปุ่น
อุทยานแห่งชาตินิกโก้นั้นเป็นอุทยานที่สามารถเข้าชมไปตลอดทั้งปีด้วยความงดงามของน้ำตก และทะเลสาบ Chuzenji โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่จะสวยงามไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu) ที่สร้างได้อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติอีกด้วย
ข้อมูลจาก: Truelife Travel
อ่านต่อเลย..
ไปรู้จักกับ “Kodomonohi” วันเด็กแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่นกัน
