หากพูดถึงเรื่องอาชีพการงานแล้ว ตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกา ถือได้ว่าเป็นตำแหน่งที่ดูมีเกียรติมีศักดิ์ศรี และเป็นที่ยอมรับสูงสุด ไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศอเมริกา แต่ยังเป็นที่น่าเกรงขามและเป็นที่จับตามองของคนทั่วโลกอีกด้วย
แต่เบื้องลึกเบื้องหลังของบุคคลที่ครองตำแหน่งอันแสนทรงเกียรตินี้ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เชื่อหรือไม่ว่าหลายต่อหลายคน เคยเป็นบุคคลธรรมดาที่เห็นได้ตามท้องถนนทั่วไป บากบั่นหาเลี้ยงชีพด้วยค่าแรงขั้นต่ำในระยะเริ่มก่อร่างสร้างตัว
ซึ่งในบทความนี้เราจะไปดู เบื้องหลังของ 8 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับงานค่าแรงแสนถูก กันครับ
Barack Obama เคยเป็น “มือตักไอติม”
โอบามา เปิดเผยว่า เขาเคยทำงานเป็นคนตักไอติมที่บัสกิน-ร็อบบิ้นส์ เคยเป็นช่างทาสี เป็นเด็กเสิร์ฟที่สถานที่พักผู้ป่วยแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังเคยใช้เวลาช่วงปิดเทอมขณะเรียนที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ทำงานเก็บกวาดในไซต์งานก่อสร้าง
Ronald Reagan กับงาน “กู้ชีพ-มือล้างจาน”
อดีตประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน เคยเป็นหน่วยกู้ชีพในช่วงฤดูร้อน ขณะเขาเรียนชั้นมัธยมที่เมืองดิกซอน รัฐอิลลินอยส์ เมื่อเข้าเรียนที่ ยูเรก้า คอลเลจ โดยได้ทุนบางส่วนจากการเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล และหาเงินอีกส่วนหนึ่งจากการเป็นคนล้างจานที่หอพักชายของมหาวิทยาลัย
Gerald Ford กับงาน “ปิ้งเบอร์เกอร์”
อดีตประธานาธิบดี เจอร์รัล ฟอร์ด เคยช่วยงานพ่อเลี้ยงเป็นช่างทาสี และทำงานเป็นคนปิ้งเบอร์เกอร์ในร้านอาหารท้องถิ่น ขณะยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม ช่วงปี 2478 เขาทำงานเป็นผู้ช่วยโค้ชอเมริกันฟุตบอลของทีมมหาวิทยาลัยเยล มีรายได้ 2,400 ดอลลาร์ต่อปี นอกจากนี้ นายฟอร์ดยังเป็นโค้ชมวย ซึ่งรายได้ส่วนนี้ช่วยให้เขาชำระหนี้ที่มีและเป็นทุนเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเยลได้ในปี 2481
Herbert Hoover กับงาน “เหมืองใต้ดิน”
อดีตประธานาธิบดี เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ เคยร่วมหุ้นกับเพื่อนตั้งบริษัทขายและซ่อมจักรเย็บผ้า เมื่อเขายังเป็นวัยรุ่น แต่ธุรกิจล้มเหลว จากนั้น ปี 2434 เขาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด นายฮูเวอร์ได้ทำธุรกิจซักแห้งจนทำให้เขาเรียนจบโดยไม่มีหนี้ และมีเงินเก็บอีก 40 ดอลลาร์ หลังจบการศึกษา นายฮูเวอร์ทำงานเป็นคนเข็นรถในไซต์ใต้ดินของเหมืองแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ค่าแรงวันละ 2 ดอลลาร์ ทำงาน 70 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
Richard Nixon กับงาน “จัดซื้อ”
อดีตประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน เติบโตมาในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยแต่อย่างใด ทุกๆ วัน นายนิกสันต้องตื่นแต่เช้าก่อนไปโรงเรียน เพื่อเข้าไปในตัวเมืองลอสแองเจลิส เพื่อคัดสรรของมาขายที่ร้านของครอบครัว ก่อนจะได้ทุนเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยดุ๊ก ในปี 2473
Lyndon Johnson กับงาน “ลูกทีมทัวร์คอนเสิร์ต”
อดีตประธานาธิบดี ลินดอน จอห์นสัน ทำงานแปลกและหลากหลาย ช่วงหลังจบชั้นมัธยมปลาย เขากับเพื่อนอีก 5 คน ลงขันซื้อรถ และขับจากรัฐเท็กซัสไปยังรัฐแคลิฟอร์เนีย ช่วง 1 ปีเต็มนี้ เขาหารายได้จากอาชีพแปลกๆ นอกจากนี้ ยังเคยเป็นแรงงานในทีมทัวร์คอนเสิร์ต ที่เดินทางด้วยรถไปยังรัฐต่างๆ
Jimmy Carter กับงาน “ชาวไร่”
อดีตประธานาธิบดีจิมมี่ คาร์เตอร์ ในวัยเด็กเมื่อเขาอายุ 10 ปี ก็เริ่มช่วยงานในไร่ถั่วลิสง โดยทำหน้าที่ขนผลผลิตไปขายในเมือง หลังจากนั้น เมื่อเขาไปเรียนที่วิทยาลัยทหารเรือ และเป็นทหารเรืออยู่หลายปี เขาก็กลับมาทำไร่ของครอบครัว หลังพ่อเสียชีวิต ไร่ของครอบครัวเขาประสบวิกฤตแห้งแล้งในปี 2497 ทำให้ครอบครัวมีกำไรจากการทำไร่ในปีนั้นเพียง 187 ดอลลาร์
Bill Clinton กับงาน “เสมียนรัฐสภา”
อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน เคยบอกไว้ว่า เขากังวลมากว่าจะมีหนี้ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ แต่เขาได้รับทุนและเงินพ่อแม่มาช่วย ต่อมา เขาก็ได้งานเป็นเสมียนให้กับคณะกรรมาธิการด้านความสัมพันธ์ต่างประเทศให้กับรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งมีรายได้ 3,500 ดอลลาร์ ทำให้เขาโล่งใจอย่างมาก เพราะเขากลัวว่าต้องเลิกเรียนกลางคัน และต้องกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยในบ้านเกิด เพราะค่าเล่าเรียนถูกกว่า
ข้อมูลจาก: gogoamerica
อ่านต่อเลย..
ทำไมคนรัสเซียถึง “ยิ้มยาก” !?? บทความตอบคำถามนี้ ที่ทุกคนสงสัย…
