Thomson Reuters ผู้ให้บริการข้อมูลทางการเงินและรายงานข่าวต่างๆ ให้แก่สำนักข่าวต่างๆ ของโลก ได้เผยคำทำนายโลก The World in 2025: 10 Predictions of Innovation โดยพูดถึง 10 นวัตกรรมน่าเหลือเชื่อ ที่คาดว่ากำลังจะเกิดขึ้นจริงภายในปี 2025
นักวิจัยได้ทำการศึกษาจากข้อมูลของ Derwent World Patents Index ซึ่งเป็นฐานข้อมูลสิทธิบัตรที่มีการยอมรับและน่าเชื่อถือสูงสุด เพื่อหา 10 สาขาของนวัตกรรมที่มีคนจดสิทธิบัตรมากที่สุดตั้งแต่ปี 2012 จนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงข้อมูลการวิจัยต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์และการต่อยอดลงทุนในงานวิจัยนั้นครับ
10 นวัตกรรมสุดแห่งโลกอนาคตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2025 ตามการคาดการณ์ Thomson Reuters มีดังต่อไปนี้ครับ
1. การลดลงของภาวะสมองเสื่อม
เมื่อถึงตอนนั้น Baby Boomers หรือกลุ่มประชากรที่เกิดในยุคหลังสงคราม
2. พลังงานแสงอาทิตย์จะกลายเป็นแหล่งพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของโลก
กระบวนการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถนำมาใช้ได้จริง จนพลังงานแสงอาทิตย์จะกลายเป็นแหล่งพลังงานหลักของโลกไปโดยปริยาย
3. โรคเบาหวานประเภทที่ 1 จะสามารถป้องกันได้
การตัดต่อแก้ไข genome ของมนุษย์จะสามารถทำได้จริงในไม่ช้า ซึ่งจะทำให้การป้องกันโรคเบาหวานประเภทที่ 1 สามารถทำได้จริงด้วยเช่นกัน
4. ปัญหาขาดแคลนอาหารจะหมดไป
ด้วยความก้าวหน้าทางด้วนการตัดต่อพันธุกรรมในพืช บวกกับเทคโนโลยีด้านการให้แสงสว่าง ปัญหาขาดแคลนอาหารและความผันแปรในราคาอาหารจะกลายเป็นเพียงเรื่องในอดีตเท่านั้น
5. ยานพาหนะทางอากาศที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
ด้วยความก้าวหน้าทางด้านวิศวกรรมการบินที่วัสดุน้ำหนักเบา บวกกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ทำให้ในอนาคตมนุษย์สามารถที่จะผลิตเครื่องบินน้ำหนักเบาที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ใช้พื้นที่ในการขึ้นหรือลงอย่างจำกัด ไม่แน่ในอนาคตทุกคนอาจจะต้องมีเครื่องบินใช้กันส่วนตัวแทนรถยนต์ก็เป็นได้
6. ทุกสิ่งจะควบคุมด้วยระบบดิจิตอล
ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกควบคุมด้วยระบบดิจิตอล ตั้งแต่รถไปจนถึงบ้านที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของคุณได้ นอกจากนี้ทุกจุดทั่วโลกจะเชื่อมต่อถึงกันได้โดยตรงผ่านระบบดิจิตอลด้วย
7. บรรจุภัณฑ์จากปิโตรเลียมจะกลายเป็นเพียงประวัติศาสตร์
บรรจุภัณฑ์ที่ได้มาจากปิโตรเลียม จะถูกแทนที่ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการสกัดเซลลูโลส ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและย่อยสลายได้ 100%
8. การรักษาโรคมะเร็งจะมีผลข้างเคียงน้อยมาก
ปัจจุบันการทำลายเซลล์มะเร็ง มีความเสี่ยงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเซลล์ดีที่อยู่ข้างเคียงด้วย แต่ปัญหาเหล่านี้จะลดลงหรืออาจหายไปในอนาคต
9. การทำ DNA Mapping ในเด็กแรกเกิดจะกลายเป็นเรื่องปกติ
จากนวัตกรรมด้านนาโนเทคโนโลยีที่พัฒนาก้าวไกล เด็กแรกเกิดทุกคนจะถูกติดตามข้อมูลทางชีวภาพด้วยการทำแผนที่ดีเอ็นเอหรือดีเอ็นเอแม็ปปิ้ง อันจะกลายเป็นฐานข้อมูลทางชีวภาพและสุขภาพที่สำคัญของประชากร ที่สำคัญยังสามารถระบุและติดตามความเจ็บป่วยของแต่ละคนได้ด้วย
10. ในอนาคตจะสามารถใช้ประโยชน์จาก Quantum teleportation ได้
ถึงแม้ว่าในปี 2025 จะยังคงไม่สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือคนจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้ แต่สำหรับ Quantum teleportation หรือการเคลื่อนย้าย สภาวะควอนตัมระหว่างอะตอมโดยที่ไม่ต้องอาศัยตัวกลางทางกายภาพ จะกลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอนาคตแน่นอน
ข้อมูลจาก: dailymail