หลังจากที่โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนหลายๆ โครงการได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคัดเลือกตัวจริงและทำการปฐมนิเทศไปแล้ว น้องๆหลายคนก็คงกำลังตื่นเต้นและเตรียมหาข้อมูลเพิ่มว่าประเทศที่เราจะเดินทางไปนั้นเป็นยังไงบ้าง
อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญที่ไม่รู้ไม่ได้เลยก็คือ ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในแต่ละเดือน ซึ่งในบทความนี้ผมก็มีคำตอบ จากรุ่นพี่ที่เคยเป็นเด็กแลกเปลี่ยนจากหลายๆประเทศ มาฝากน้องๆกันครับ
ญี่ปุ่น
“ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจริงๆ ประมาณเดือนละ 10,000-12,000 บาทค่ะ ใช้ในการเดินทาง และซื้อของใช้ส่วนตัวหรือขนม แล้วก็เที่ยวกับเพื่อนบ้างค่ะ อย่างข้าวเช้าจะกินที่บ้านโฮสท์ ตอนกลางวันก็จะมีข้าวกล่องให้ แต่ถ้าวันไหนไม่มีก็จะกินขนมปังวันละประมาณ 50-60 บาท”
เบลเยี่ยม
“ใช้เดือนละ 1 หมื่นบาท เป็นค่าเดินทางไปเรียนเต้นที่ต่างเมือง ค่าขนม แล้วก็ค่าเดินทางกับค่าอาหารเวลาไปเที่ยวเอง”
“ใช้เดือนละประมาณ 2,500 บาทเองค่ะ ส่วนมากจะเป็นค่าอาหารกลางวัน แต่ก็มีบ้างบางเดือนที่ใช้เยอะกว่านี้ เพราะส่วนมากจะหมดเงินไปกับค่ารถไฟเยอะ นั่งไปที่ยวกับเพื่อนอะไรประมาณนี้อะค่ะ”
อเมริกา
“ทางโครงการแนะนำให้ทางที่บ้านส่งเงินให้เดือนละ $300 หรือประมาณ 9,000 บาท ส่วนใหญ่หมดกับของใช้ส่วนตัวและอาหารกลางวัน มื้ออื่นโฮสท์จะออกให้ค่ะ นอกจากนี้ยังมีค่ากิจกรรมกับทางโรงเรียนแบบไปทัศนศึกษา เราก็ต้องออกเอง ไปทำกิจกรรมกับชมรมก็ต้องออกเงินส่วนตัวค่ะ”
“ไป 10 เดือนใช้ทั้งปีไม่ถึงแสนเลยค่ะ ตกก็เดือนละไม่ถึง 1 หมื่นบาท ส่วนใหญ่โฮสท์จะออกให้หมด แต่ถ้าจะไปเที่ยวเราก็จ่ายค่าเครื่องบินเอง แล้วก็จะมีพวกค่าช้อปปิ้งกับค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ต้องจ่ายเองค่ะ”
“ตกวันละประมาณ 10 ดอลลาร์หรือ 300 บาทครับ อย่างข้าวเที่ยงที่โรงเรียนก็จานละ 100 กว่าบาทแล้ว ตอนเย็นอาจซื้อขนมอีกบ้าง ดังนั้นรวมๆ แล้วเดือนนึงไม่ถึงหมื่นด้วยซ้ำ เพราะผมอยู่เมืองเล็กๆ เงียบๆ ไม่มีอะไรให้ซื้อมาก”
แคนาดา
“ได้เงินจากโครงการเดือนละ 150 ดอลลาร์หรือประมาณ 5,000 บาท หลักๆ ก็จ่ายค่าโทรศัพท์ไป 20 ดอล นอกนั้นก็เก็บไว้ช้อป บางเดือนก็พอใช้ บางเดือนก็ไม่พอใช้ โดยรวมแล้วตลอดทั้งปีที่อยู่โน่น คุณแม่โอนเงินมาให้เพิ่ม 30,000 บาทค่ะ”
ฟินแลนด์
“ประมาณ 5,000-7,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าขนม ค่าอาหารว่าง แต่ถ้าเดือนไหนได้ไปเที่ยวและช้อปปิ้ง ก็จะใช้ประมาณ 10,000 บาทอัพค่ะ”
โดมินิกัน
“ถ้าประหยัดใช้เดือนละ 2-3 พันบาทไทย (ค่าข้าว+ของจุกจิก) แต่ปกติจะใช้เดือนละ 4 พัน ที่นั่นข้าวตกจานละประมาณ 100 บาท แต่ถ้าช้อปปิ้งหรือเที่ยวนี่เฉียดหมื่นค่ะ”
เดนมาร์ค
“ตกเดือนละประมาณ 8,000 บาทค่ะ ก็จะมีค่าฟิตเนส ค่าโทรศัพท์ ค่าขนมบ้างนิดหน่อย ถ้าเดือนไหนมีไปเที่ยวก็จะ 10,000 กว่าๆ ค่ะ”
เยอรมัน
“ใช้เดือนละประมาณ 200 ยูโร คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 8,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าอาหารกับพวกค่าใช้จ่ายส่วนตัว แต่ถ้าไปเที่ยวก็จะมีเพิ่มบ้างค่ะ”
ออสเตรเลีย
“ใช้เดือนละประมาณ 300 ดอลลาร์ออสเตรเลียค่ะ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 8 พันบาท แบ่งเป็นค่าโทรศัพท์ 30 ดอล ค่าเดินทาง 100-150 ดอล ที่เหลือก็อาหาร+เสื้อผ้า+เที่ยวค่ะ :D ออสเตรเลียค่าครองชีพแพง”
เกาหลีใต้
“อยู่ 10 เดือน ประมาณแสนห้าได้ค่ะ เฉลี่ยแล้วเดือนละ 15,000 แต่ละเดือนส่วนใหญ่ใช้เป็นค่ากินเพราะข้าวที่หอไม่ถูกปาก เลยเสียเงินไปกับของกินมากกว่าของช้อปค่ะ ”
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
1. ส่วนมากจะใช้เงินกันเดือนละประมาณ 8,000-10,000 บาท ดังนั้นใครจะไปแลกเปลี่ยนควรมีเงินค่าใช้ส่วนตัวสำรองไว้ประมาณ 100,000 บาทไว้ขั้นต่ำ
2. โดยทั่วไปอาหารเช้าและอาหารเย็นเราจะกินที่บ้านโฮสท์แฟมิลี่ โฮสท์บ้านไหนใจดีหน่อยอาจจะทำข้าวกล่องมื้อกลางวันให้เราไปกินที่โรงเรียนด้วยซึ่งก็จะประหยัดได้เยอะ แต่ถ้าไม่มีข้าวกล่อง เราก็ต้องเสียเงินซื้ออาหารกลางวันเองครับ
3. สำหรับค่าเดินทาง ในต่างประเทศค่อนข้างแพงทีเดียว ดังนั้นอย่าลืมศึกษาด้วยว่า ในเมืองที่เราไปอยู่นั้นมีตั๋วหรือ Pass อะไรบ้างที่จะทำให้ช่วยประหยัดค่าเดินทาง เช่น บัตรโดยสารสำหรับนักเรียนในราคาพิเศษ
4. ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับเมืองที่เราไปอยู่ด้วย หากใครได้อยู่เมืองใหญ่ๆ มีที่เที่ยวที่ช้อปเยอะ แน่นอนว่าต้องใช้จ่ายมากกว่าคนที่ได้ไปอยู่เมืองเล็กๆ แน่นอน
5. สำหรับวิธีการพกเงินไปนั้น ควรศึกษาล่วงหน้าว่าเมืองที่เราไปอยู่ สามารถหาตู้ ATM ได้ง่ายหรือไม่ ด้วยการสอบถามจากโฮสท์แฟมิลี่ล่วงหน้า หากตู้ ATM อยู่ไกลมากหรือไม่มีเลย ก็แนะนำให้พกเงินติดตัวไปเลยน่าจะสะดวกกว่า แต่ถ้าใครกลัวหายล่ะก็ ให้ทำบัตร ATM แบบที่มีเครื่องหมาย VISA ก็จะสามารถนำเงินไปกดเงินสดได้ที่ตู้ ATM ทั่วโลกที่มีเครื่องหมาย VISA เช่นเดียวกัน โดยจะเสียค่าธรรมเนียมการกดข้ามประเทศครั้งละ 100 บาทครับ
6. เมื่อรวมค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จแล้ว จะได้ว่า ค่าโครงการและค่าตั๋วเครื่องบินอยู่ที่ 350,000-400,000 บาท บวกค่าใช้จ่ายส่วนตัวทั้งปีอีก 100,000 บาท สรุปได้ว่าในการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนระยะเวลาเกือบ 1 ปี จะใช้เงินทั้งหมดโดยประมาณ 450,000-550,000 บาทนั่นเองครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก: dek-d
