ทีมวิจัยอเมริกันชี้ ตั้งชื่อพายุเฮอร์ริเคนด้วยชื่อผู้หญิง อาจทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น3เท่า!!

พายุเฮอร์ริเคน แต่ละลูกจะถูกกำหนดชื่อไว้ล่วงหน้า ซึ่งมีทั้งชื่อผู้ชายและชื่อผู้หญิงสลับกันไป โดยไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงของพายุที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา โดยนักวิทยาศาสตร์ได้นำระบบนี้เข้ามาใช้ในช่วงทศวรรษที่ 1970 เพื่อหลีกเลี่ยงการมีอคติทางเพศ

 

ซึ่งก่อนหน้านั้นพายุเฮอร์ริเคนเคยถูกกำหนดให้ใช้ชื่อผู้หญิงเท่านั้น ซึ่งเป็นการปฏิบัติอันเกิดจากความเชื่อที่ว่า พายุมีลักษณะคาดเดาไม่ได้เหมือนสตรี

 

อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาของซึ่งครอบคลุมพายุเฮอร์ริเคนที่ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติกในช่วงกว่า 6 ทศวรรษระบุว่า การตั้งชื่อพายุเฮอร์ริเคนด้วย ชื่อผู้หญิง อาจทำให้ยอดเหยื่อผู้เสียชีวิตให้เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า เนื่องจากประชาชนไม่รู้สึกว่า พายุดังกล่าวมีอันตรายร้ายแรงเท่ากับพายุที่มีชื่อเป็นผู้ชาย

 

hc1

 

Sharon Shavitt อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด ซึ่งเป็นผู้ร่วมเขียนงานวิจัยกับคณะนักวิจัยจาก University of Illinois ชี้ว่า “ประชาชนดูจะปักใจเชื่อว่า มีความสอดคล้องกันระหว่างระดับความรุนแรงของพายุ กับพฤติกรรมของเพศชายและเพศหญิง ด้วยเหตุนี้ คนจึงรู้สึกว่า พายุเฮอร์ริเคนที่ถูกตั้งชื่อเป็นหญิงโดยเฉพาะชื่อที่สะท้อนความเป็นเพศหญิงมากๆ อย่าง แบล หรือซินดี ดูนุ่มนวลกว่า และรุนแรงน้อยกว่า”

 

นอกจากนี้ รายงานของเหล่านักวิจัยระบุว่า เมื่อขอประชาชนให้นึกภาพว่า ตนเองอยู่ในเส้นทางที่พายุเฮอร์ริเคนกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา พวกเขาก็จัดอันดับว่าพายุชื่อ อเล็กซานดรา คริสตินา หรือวิกตอเรีย มีความรุนแรงน้อยกว่าเฮอร์ริเคนในจินตนาการที่มีชื่อว่า อเล็กซันเดอร์ คริสโตเฟอร์ และวิกเตอร์

 

hc2

 

การศึกษาชิ้นนี้สรุปว่า “สำหรับผู้กำหนดนโยบายแล้ว การค้นพบเหล่านี้ชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงระบบการตั้งชื่อพายุเฮอร์ริเคนอีกครั้ง จะช่วยป้องกันไม่ให้ประชาชนประเมินความรุนแรงของเฮอร์ริเคนผิดพลาด เพราะถูกอคติทางเพศครอบงำ พร้อมทั้งกระตุ้นให้ประชาชนตั้งรับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม”

ข้อมูลจาก: Eduzones

ร่วมแสดงความคิดเห็น...

SHARE
อัพเดทเรื่องราวของสถาบัน และหลักสูตรที่น่าสนใจในต่างประเทศ พร้อมแนะนำเทคนิคใช้ชีวิตต่างแดนแบบเจ๋งๆ คอยติดตามได้เลย...

ดูเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ...