ผลการวิจัยชี้ว่า ชาวอเมริกันพื้นเมืองอาจมีบรรพบุรุษร่วมกันกับชาวเอเชีย!!

สถาบันมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งประเทศเม็กซิโก เปิดเผยผลการวิจัยโครงกระดูกมนุษย์ ซึ่งค้นพบเมื่อปี 2007 ในถ้ำใต้น้ำ บริเวณคาบสมุทรยูคาทัน ประเทศเม็กซิโก ซึ่งผลการศึกษาชี้ว่า ชาวอเมริกันพื้นเมืองอาจมีบรรพบุรุษร่วมกันกับชาวเอเชีย

 

hm1

 

โครงกระดูกดังกล่าวเป็นของวัยรุ่นเพศหญิงอายุกว่า 12,000 ปี ซึ่งมีลักษณะใบหน้าเล็กและแคบ ตาห่าง หน้าผากโหนก และฟันยื่น จึงมีลักษณะแตกต่างจากชาวอเมริกันพื้นเมืองในปัจจุบัน

 

แต่จากผลการพิสูจน์กลับพบว่า โครงกระดูกดังกล่าว มีลักษณะ DNA เหมือนกับของชาวอเมริกันพื้นเมือง และที่สำคัญ DNA ดังกล่าวจะพบในชาวเอเชียเท่านั้น

 

คณะวิจัยทำการศึกษา DNA ตัวหนึ่ง จาก Mitochondria ของ NIA ที่เรียกว่า mtDNA haplogroup D1 ซึ่ง DNA ประเภท Haplogroup D1 ที่ควรจะพบในคนเอเชียเท่านั้น แต่กลับพบในชนพื้นเมืองอเมริกันด้วย

 

hm2

Haplogroup D

จากการศึกษาพบว่า ร้อยละ 11 ของชาวอเมริกันพื้นเมือง จะมี DNA ชนิดนี้รวมอยู่ด้วย โดยสามารถตรวจพบได้ในชาวอเมริกันพื้นเมืองซึ่งอาศัยในแถบทวีปอเมริกาเหนือ เรื่อยไปจนถึงแถบอเมริกากลาง และทวีปอเมริกาใต้

 

จากผลการศึกษาพบว่า บรรพบุรุษของ NIA น่าจะอพยพมาจากทวีปเอเชีย ผ่านทางแผ่นดินยุคโบราณ Beringia ซึ่งเคยมีอยู่เมื่อ 21,000 ปีก่อน และเป็นบริเวณที่เชื่อมทวีปเอเชียกับทวีปอเมริกาเหนือไว้ด้วยกัน ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวคือ Bering Strait

ข้อมูลจาก : มติชนออนไลน์

ร่วมแสดงความคิดเห็น...

SHARE
อัพเดทเรื่องราวของสถาบัน และหลักสูตรที่น่าสนใจในต่างประเทศ พร้อมแนะนำเทคนิคใช้ชีวิตต่างแดนแบบเจ๋งๆ คอยติดตามได้เลย...

ดูเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ...