การสอนทักษะการพูดภาษาอังกฤษ ในเบื้องต้นจะมุ่งเน้น Accuracy (ความถูกต้องของการใช้ภาษา), Vocabulary (เสียง คำศัพท์), Grammar (ไวยากรณ์) และ Patterns (กระสวนประโยค)
ดังนั้นกิจกรรมฝึกทักษะการพูดที่จัดให้ผู้เรียน ระดับต้น จึงเน้นกิจกรรมที่ผู้เรียนต้องฝึกปฏิบัติตามแบบ หรือตามโครงสร้างประโยคที่กำหนดให้พูดเป็นส่วนใหญ่
สำหรับผู้เรียน ระดับสูง กิจกรรมฝึกทักษะการพูดจะเน้นที่ Fluency (ความคล่องแคล่วของการใช้ภาษา) และจะเป็นการพูดแบบอิสระมากขึ้น เพราะจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการพูด คือ การสื่อสารให้ผู้อื่นได้รับรู้ด้วยการพูดอย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว
ทั้งนี้การฝึกทักษะการพูดจะมีอยู่ 3 รูปแบบ โดยผู้สอนจะต้องจัดการเรียนรู้เพื่อฝึกทักษะการพูดให้แก่ผู้เรียนได้อย่างสอดคล้องกับระดับและศักยภาพของผู้เรียนครับ
1. Mechanical Drills การฝึกพูดระดับกลไก เป็นการฝึกพูด ตามรูปแบบที่กำหนดให้ตายตัว มีหลายลักษณะเช่น
– Multiple Substitution Drill พูดเปลี่ยนคำศัพท์ในประโยค
– Transformation Drill พูดตั้งคำถามจากสถานการณ์ในประโยคบอกเล่า
– Yes/No Question-Answer Drill พูดถามตอบตามรูปแบบของประโยคที่กำหนดให้
– Sentence Building พูดสร้างประโยคต่อเติมจากประโยคที่กำหนดให้
– Rub out and Remember พูดคำศัพท์ สำนวนในประโยคที่ถูกลบไปทีละส่วน
– Ordering dialogues พูดเรียงประโยคจากบทสนทนา
– Predicting dialogue พูดทายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในบทสนทนา
– Completing Sentences พูดต่อเติมส่วนที่หายไปจากประโยค
– Split Dictation พูดให้เพื่อนเขียนตามคำบอก
– ฯลฯ
2. Meaningful Drills การฝึกพูดอย่างมีความหมาย เป็นการฝึกตามตัวแบบที่เน้นความหมายมากขึ้น มีหลายลักษณะ เช่นพูดสร้างประโยคเปรียบเทียบโดยใช้รูปภาพ พูดสร้างประโยคจากภาพที่กำหนดให้และพูดเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ ในห้องเรียน เป็นต้น
3. Communicative Drills การฝึกพูดเพื่อการสื่อสาร เป็นการฝึกเพื่อมุ่งเน้นการสื่อสาร เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสร้างคำตอบตามจินตนาการ เช่น พูดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง (Situation) พูดตามสถานการณ์ที่กำหนดให้ (Imaginary Situation) พูดบรรยายภาพหรือสถานการณ์แล้วให้เพื่อนวาดภาพตามที่พูด (Describe and Draw) เป็นต้น
ที่มา: oknation.net