นายพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองของไทยในขณะนี้ มีผลต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึง นักท่องเที่ยวพม่าที่เดินทางมาเที่ยวไทยหลังจากมีการชุมนุมต่อเนื่องมาแล้ว 3 เดือน
สถานการณ์การการชุมนุมที่ผ่านมา ยังไม่ถึงกับทำให้ทางการพม่าประกาศเตือนนักท่องเที่ยวพม่าที่จะเดินทางมาไทย แต่ทางการพม่าก็เป็นห่วงว่าถ้าหากสถานการณ์การเมืองไทยไม่คลี่คลายในเร็ววัน จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและอาจมีผลต่อการเดินทางมาเที่ยวไทยในอนาคต
รัฐมนตรีของพม่าหลายคนมองว่าสถานการณ์การเมืองไทย ยังตึงเครียดและอาจมีความรุนแรงขึ้น ซึ่งในฐานะที่พม่า เป็นประธานอาเซียนได้มองเรื่องการรวมกลุ่มเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 ที่สมาชิกต้องพึ่งพากันมากขึ้น จึงกังวลกับสถานการณ์ในเมืองไทยช่วงที่ผ่านมา
สถานการณ์การเมืองที่ปัจจัยลบต่อการท่องเที่ยวไทย อาจทำให้ไทยสูญเสียโอกาสดึงดูดการท่องเที่ยวจากต่างชาติ เนื่องจากนักท่องเที่ยวเลือกเดินทางไปพม่าและประเทศใกล้เคียงในอาเซียนแทน โดยถ้าดูสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไปพม่า จะเห็นชัดเจนว่าเติบโตต่อเนื่อง
ในปี 2551 พม่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 193,000 คน และปี 2554 เพิ่มขึ้นเป็น 391,000 หรือเพิ่มขึ้น 26.5 % ต่อปี และปี 2555 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าพม่าแบบก้าวกระโดดเกินกว่า 1 ล้านคนเป็นครั้งแรก ทำให้ปีนั้นพม่ามีรายได้จากการท่องเที่ยว ไม่ต่ำกว่า 534 ล้านดอลลาร์ หรือ 16,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 67%
นอกจากพม่าเร่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ยังได้เร่งเปิดประเทศต้อนรับนักลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งภาคเอกชนไทยมีความสนใจไปลงทุนในประเทศต่างในอาเซียนมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศพม่าที่เพิ่งเปิดประเทศได้ไม่นาน ทำให้มีโอกาสสำหรับธุรกิจและอุตสาหกรรมจำนวนมาก
ทั้งนี้พม่ามีหลายปัจจัยสนับสนุนการเข้าลงทุน ได้แก่ การมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ การมีค่าจ้างแรงงานต่ำและ เป็นแรงงานที่มีทักษะโดยเฉพาะทักษะ ในเรื่องภาษาอังกฤษ ขณะที่กำลังซื้อของประชากรในประเทศพม่ามีมากขึ้นเรื่อยๆ และรัฐบาลพม่าเองก็ชัดเจนในเรื่องของนโยบายการส่งเสริมการลงทุนที่ให้แก่นักลงทุนต่างชาติมากขึ้น
ที่มา:uAsean