การไปเรียนต่อในต่างประเทศ ที่มีค่าครองชีพสูงนั้น หลายคนก็ต้องเลือกที่จะทำงานพิเศษไปด้วย ทั้งแบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย และผิดกฎหมาย (ไม่ได้หมายถึงทำอาชีพผิดกฎหมาย แต่หมายถึงการทำงานเกินเวลา) เพื่อให้ได้เงินมาพอกับค่าใช้จ่ายนั่นเอง
วันนี้ WeGoInter.com มีสถิติน่าสนใจของนักศึกษามหาวิทยาลัยในอเมริกา ว่าพวกเขาเหล่านั้นทำงานเสริมอะไรกัน แล้วเงินที่ได้มานั้นเอาไปทำอะไรกันบ้าง เรามาดูข้อมูลนี้กันเลย….
นักศึกษามหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา จำนวนมากถึง 75% ที่ทำงานเสริมไปด้วยระหว่างเรียน อาชีพยอดฮิตส่วนใหญ่ก็คือพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร และบาร์เทนเดอร์ โดยมีอาชีพรองลงมาก็คือคนดูแลหอพัก พี่เลี้ยงเด็ก รวมถึงติวเตอร์
ในแต่ละเดือนนั้น นักศึกษามหาวิทยาลัยจะทำงานพิเศษไปด้วย ซึ่งสร้างรายได้ประมาณเดือนละ 1,200 เหรียญ หรือประมาณ 36,000 บาทต่อคน รวมแล้วในหนึ่งปีจะทำรายได้มากถึง 430,000 บาทเลยล่ะ
หลายคนคงจะเริ่มอยากรู้แล้วล่ะสิ ว่าพอได้เงินเดือนๆหนึ่งมา เหล่านักศึกษาทั้งหลายจะเอาเงินไปทำอะไรบ้าง โดยพบว่า 40% นั้นจะใช้ไปกับการใช้จ่ายส่วนตัว เช่น เทคโนโลยี ความบันเทิง เสื้อผ้า เครื่องสำอางค์
26% ใช้ในการจ่ายค่าห้องพัก มีเพียง 19% ของเงินที่หามาได้เท่านั้นที่จะเอาไปใช้ในการจ่ายค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา จะเห็นได้ว่าเด็กอเมริกันก็มีรสนิยมการใช้เงินคล้ายๆคนไทยเหมือนกันนะเนี่ย
แต่ถ้าเป็นนักเรียนไทย เงินส่วนมากที่ทำงานพิเศษ ก็จะใช้ไปในการจ่ายค่าอาหาร และค่าที่พักซะมากกว่า คงเป็นเพราะเราไม่ได้รับทุนส่งเสริมการเรียนเท่ากับพลเมืองของประเทศ และยังต้องแบกรับค่าครองชีพที่สูงกว่าเมืองไทยนั่นเอง
หวังว่าคงเป็นความรู้ดีๆให้เพื่อนๆชาว WeGoInter.com ได้มีข้อมูลเพิ่มขึ้นสำหรับการวางแผนเรียนต่อต่างประเทศกันนะครับ แล้วไว้คราวหน้าจะเอาเรื่องราวน่าสนใจแบบนี้มานำเสนอกันใหม่ คอยติดตามให้ได้เลยนะ ^^
ที่มา: source