สัญญาณจากเหงื่อที่บ่งบอกถึง 8 ปัญหาสุขภาพซึ่งแฝงอยู่ในร่างกายคุณ

เหงื่อมีลักษณะเป็นของเหลวที่เป็นน้ำเกลือ และโปรตีน การที่มีเหงื่ออกเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงระบบการทำงานของร่างกายและการมีสุขภาพที่ดี

การที่มีเหงื่อออกมากจะช่วยทำให้ร่างกายเย็นลง ซึ่งเป็นระบบการทำงานของร่างกายที่เรียกว่า ระบบการควบคุมอุณหภูมิ แต่หากมีเหงื่อออกมากเกินกว่าปกติก็ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกได้ถึงปัญหาสุขภาพที่แฝงอยู่ในร่างกายคุณ ยกตัวอย่างเช่นโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ต่อไปนี้….

1. สัญญาณของโรคเครียด

การมีเหงื่ออกมากผิดปกติอาจเป็นสัญญาณสื่อถึงโรคเครียด และความกังวลที่มีอยู่ โดยทั่วไปแล้วเหงื่อที่เกิดจากความเครียดมักมีกลิ่นแรงเนื่องจากมีส่วนประกอบของไขมัน โปรตีน และแบคทีเรียจากผิวหนัง

2. ปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ (ไทรอยด์เป็นพิษ)

ไทรอยด์เป็นพิษ คือภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนออกมามากเกินไป ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานมากขึ้น เป็นสาเหตุทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วแบบผิดปกติ หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดปกติ หงุดหงิด ฉุนเฉียว และเหงื่อออกง่าย

3. ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia)

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างผิดปกติและเป็นอันตราย มักทำให้เกิดอาการสั่นและอ่อนเพลีย ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดภาวะดังกล่าวนั้นมีอยู่สูงในผู้ป่วยโรคเบาหวาน อาการภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

4. เหงื่อออกมาก (Hyperhidrosis)

เหงื่อออกมากคือภาวะที่ร่างกายขับเหงื่อออกทางผิวหนังมากผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากความบกพร่องของระบบประสาท ระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติ การเจ็บป่วยต่าง ๆ หรืออาจเป็นผลข้างเคียงของยาบางชนิด

แต่ไม่ได้เกิดจากภาวะที่ทำให้เหงื่อออกมากโดยทั่วไปอย่างอากาศร้อน การออกกำลังกาย ภาวะตื่นเต้นหรือเครียด

5. ผลกระทบจากการกินยาบางประเภท

การที่ร่างกายมีเหงื่ออกมากผิดปกติอาจจะเป็นผลข้างเคียงจากการกินยาบางชนิด เช่นยาปฏิชีวนะ ยารักษาความดันโลหิต และยาจิตเวช ผู้ป่วยสามารถสอบถามผลกระทบเพิ่มเติมได้จากการปรึกษาแพทย์

6. สัญญาณบ่งบอกถึงวัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน (Menopause)

การที่ร่างกายถึงวัยหมดประจำเดือน หรือวัยทองนั้น ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนเปลี่ยนแปลง ซึ่งก่อให้เกิดอาการหลายอย่างตามมาเช่น เหงื่อออกมากกว่าปกติ ประจำเดือนมาผิดปกติ ไมเกรน หรือมีอาการร้อนวูบวาบ

7. ไข้ไม่ทราบสาเหตุ (Fever of Unknown Origin: FUO)

ไข้ไม่พบความผิดปกติ คืออาการไข้ที่ผู็ป่วยมีไข้ 38.3 ํC โดยเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน หลังจากซักประวัติการเจ็บป่วยและตรวจร่างกายแล้ว ไม่สามารถอธิบายสาเหตุของไข้ได้ และมีอาการติดต่อกันเป็นระยะเวลานานอย่างน้อย 3 สัปดาห์