สถิติล่าสุดระบุว่า คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 46.3 พันล้านเหรียญต่อปีที่เสียไปกับค่าผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักในสหรัฐอเมริกา และการสำรวจของสหราชอาณาจักรในปี 2016 ที่ผ่านมา พบว่า เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ที่ตอบแบบสอบถามกำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก
โดยแนวคิดเรื่องการไดเอทเป็นสิ่งที่แวดล้อมด้วยความเชื่อ ข้อสันนิษฐาน และความคลั่งไคล้ เหมือนวิธีการลดน้ำหนักแปลกๆ ที่นำมาเสนอในบทความนี้
1. Sleeping beauty diet
Sleeping beauty diet เป็นวิธีที่ตั้งอยู่บนความคิดที่ว่า เมื่อกำลังนอนหลับ เราก็จะไม่กินอาหาร ซึ่งอาศัยยาระงับประสาทเพื่อช่วยในการนอนหลับระหว่างวันเพื่อเลี่ยงการทานอาหาร แน่นอนว่าเป็นการลดน้ำหนักที่อันตราย เสี่ยงต่อการเสพติด โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน
2. ไดเอทโดยบุหรี่
วิธีนี้ได้แนวคิดมาจากแคมเปญโฆษณาบุหรี่ Lucky Strike ในปี 1920 ซึ่งใช้สโลแกนว่า “Reach for a Lucky Instead of a Sweet” (เอื้อมเข้าหา Lucky แทนที่จะเป็นของหวาน) จริงอยู่ที่นิโคตินในบุหรี่สามารถลดความอยากอาหารได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมากมาย
3. Hallelujah
การไดเอทวิธีนี้คือรับประทานอาหารที่สดดิบ รวมไปถึงผัก เหมือนดังที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล เพื่อชำระร่างกายจากสารพิษ แม้จะฟังดูดีแต่ในขณะเดียวกันก็เป็นวิธีที่สุดโต่ง ไม่มีความสมดุล ทั้งยังห้ามรับประทานผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และอาหารแปรรูป
4. ไดเอทโดยพยาธิตัวตืด
เทรนด์การรับประทานอาหารที่น่าขยะแขยงนี้เริ่มมาตั้งแต่สมัยวิคตอเรีย และในบช่วงศตวรรษที่ 20 นักร้องโอเปร่าที่ชื่อ Maria Callas ก็มีข่าวลือว่าเธอกินพยาธิตัวตืดเพื่อลดน้ำหนัก วิธีการรับประทานคือกลืนยาเม็ดที่ข้างในบรรจุด้วยไข่พยาธิตัวตืด
5.ก้อนสำลี
แนวคิดการกินก้อนสำลีนี้เชื่อว่าจะทำให้รู้สึกอิ่ม ดังนั้น พวกเขาจึงกินมันแทนการรับประทานอาหารปกติ แต่ผู้ที่ไดเอทด้วยวิธีนี้คงลืมไปว่า สำลีนั้นยังประกอบด้วยสารเคมีจำนวนมาก และเป็นอันตรายต่อลำไส้ได้ง่าย
6. ไดเอทโดยน้ำส้มสายชู
วิธีนี้คนดังจากศตวรรษที่ 19 เคยใช้เพื่อลดน้ำหนัก โดยรับประทานบิสกิต โซดา มันฝรั่ง และน้ำส้มสายชู ซึ่งเป็นวิธีที่อันตรายต่อสุขภาพ กัดกร่อนสารเคลือบฟัน ลำคอ และส่งผลต่อปัญหาทางเดินอาหาร
7. การมองเห็น
แนวคิดที่ฟังดูดีนี้มาจากนักประดิษฐ์ชาวญี่ปุ่น โดยระบุว่าสีแดง สีเหลือง เป็นสีที่น่ากิน ในขณะที่สีฟ้าดูไม่น่ากิน ทฤษฎีของเขาคือการสวมแว่นตาสีฟ้าเพื่อทำให้อาหารน่ากินน้อยลง ทว่ายังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเคล็ดลับนี้จะได้ผล
8. การเคี้ยว
โดยเคี้ยวอาหารประมาณ 32-80 ครั้ง จนอาหารกลายเป็นของเหลว และบ้วนทิ้ง แม้ว่าวิธีนี้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าได้ผลจริง แต่ก็มีคนดังนิยมใช้กันอย่าง John D. Rockefeller, Franz Kafka และ Theodore Roosevelt
9. Andy Warhol
ในหนังสือปรัชญาของ Andy Warhol ศิลปินท่านนี้ได้แบ่งปันเคล็ดลับการอดอาหาร โดยในทุกครั้งที่เขาไปที่ร้านอาหาร ก็มักจะสั่งอาหารที่ตนไม่ชอบ และเมื่อช่วงเวลาดินเนอร์จบลง เขาจะห่ออาหารเกือบทั้งจานไปทิ้งตามถนนเพื่อให้คนไร้บ้านได้กิน
10. คุ้กกี้
ใจความหลักของการไดเอทนี้คือกินคุ้กกี้แบบพิเศษ 6 ชิ้นต่อวัน แทนการรับประทานอาหารเช้า อาหารกลางวัน และรับประทานอาหารเย็นเพื่อสุขภาพ รวมไปถึงการควบคุมปริมาณแคลอรี่ ซึ่งคุ้กกี้ทำจากข้าวโอ๊ต ผลไม้ กรดอะมิโน และมีรสชาติแตกต่างกัน
11. Master Cleanse
ไดเอทวิธีนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Beyonce คือการแทนที่มื้ออาหารปกติด้วยการน้ำมะนาวดีท็อกซ์ จากส่วนผสมของน้ำมะนาว เมเปิลไซรัป และพริกคาเยน ปัญหาของวิธีนี้คือน้ำหนักลดลงรวดเร็วก็จริง แต่ก็กลับพุ่งพรวดขึ้นในเวลาอันรวดเร็วเช่นกัน
12. การปะลิ้น
การปะลิ้นคิดค้นโดยศัลยแพทย์ ดร. Chugay ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเย็บลิ้น ผลที่ได้ก็จะทำให้ไม่สามารถบริโภคอาหารแข็งๆ ได้ จึงต้องเปลี่ยนเป็นของเหลว โดยเย็บไว้เช่นนี้ประมาณ 1 เดือน
การลดน้ำหนักเหล่านี้ นอกจากเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพแล้ว ยังไม่อาจนับว่าเป็นวิธีที่ยั่งยืน ทั้งยังกลายเป็นการทำลายสุขภาพอย่างถาวร
ที่มา brightside