หลายคนคงเคยได้ยินกฎ 21 วันกันมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ว่าด้วยการปฏิบัติสิ่งนั้นสิ่งนี้ภายใน 21 วันจนติดเป็นนิสัย ทว่าจากการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้กลับเผยว่า คุณต้องใช้เวลาอย่างน้อย 66 วันในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใหม่นี้
แต่อย่างไรก็ตาม ใช่ว่านิสัยไม่เหมาะสมทั้งหมดจะส่งผลร้ายต่อเราไปทุกเรื่อง และนี่คือพฤติกรรมที่ค่อนข้างน่ายี้ แต่กลับเป็นผลดีอย่างที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน
1. ฉี่ขณะน้ำอาบน้ำ
หลายคนคงไม่กล้ายอมรับออกมาตรงๆ ว่าเคยฉี่ในขณะอาบน้ำ แต่ผลการวิจัยพบว่ามีเกือบ 75% ของผู้คนที่เคยทำเช่นนี้ อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งกรดยูริกและแอมโมเนียในปัสสาวะสามารถป้องกันโรคเชื้อราบนเท้าของเราได้
2. ถ่มน้ำลาย
การถ่มน้ำลายต่อหน้าผู้คนมากมายอาจเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ แต่การถ่มน้ำลายเมื่อคุณกำลังออกกำลังกายจะช่วยให้คุณหายใจได้คล่องขึ้น
3. เคี้ยวหมากฝรั่ง
แม้หมากฝรั่งไม่ได้มีประโยชน์ทางโภชนาการก็ตาม แต่การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เผยให้เห็นว่าสามารถช่วยในเรื่องการเรียน และการทดสอบได้ดีกว่าการดื่มคาเฟอีนเสียอีก
นอกจากนี้ การเคี้ยวหมากฝรั่งจะช่วยให้คุณโฟกัสได้ดี มีสมาธิ ลดความเครียด ความจำดีขึ้น ปรับสมดุมฮอร์โมนโดยทำการเพิ่มระดับคอร์ติซอล
4. การผายลม
ร่างกายจะทำการปล่อยก๊าซประมาณ 14 ครั้งต่อวัน และประมาณ 3-5 ครั้งระหว่างการนอนหลับ ซึ่งตามหลักการแล้วระบบทางเดินอาหารจะเริ่มผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซมีเทนประมาณ 6 ชั่วโมงหลังจากรับประทานอาหาร
ซึ่งการผายลมจะช่วยให้ร่างกายกำจัดสิ่งเหล่านี้ออกไป แต่หากคุณพยายามกลั้นไว้อาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง หรือท้องอืดตามมา
5. การเรอ
การเรอหลังจากรับประทานอาหารมื้อใหญ่ถือเป็นผลดีต่อกระเพาะอาหาร เนื่องจากเป็นการช่วยไล่ลม แต่ถ้าระหว่างวันมีอาการเรอมากเกินไป จำเป็นต้องไปพบแพทย์เพราะอาจเป็นอาการของกรดไหลย้อน
6. กัดเล็บ
การกัดเล็บเป็นการนำแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งนี่จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายเริ่มต้นผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ช่วยต่อสู้กับแบคทีเรียเหล่านี้ และร่างกายจะทำการบันทึกแบคทีเรียชนิดนี้ไว้ในความทรงจำ
7. แคะและกินขี้มูก
ฟังดูไม่น่าเชื่อแต่พฤติกรรมไม่พึงประสงค์นี้จะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เนื่องจากน้ำมูกที่คุณกินเข้าไปประกอบด้วยมิวซินที่ช่วยต่อสู้กับแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดฟันผุ
การกินน้ำมูกจะไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำการปลดปล่อยเซลล์เม็ดเลือดขาวของร่างกาย เพื่อมาป้องกันตัวเองจากเชื้อแบคทีเรียประเภทนี้
8. ไม่อาบน้ำ
การอาบน้ำทุกวันเหมือนเป็นการชะล้างน้ำมันหอมระเหยออกจากผิวหนังและเส้นผม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยคงความชุ่มชื่น
หรือแม้แต่การอาบน้ำร้อนอย่างเดียวไม่ได้ถูสบู่ ก็สามารถทำลายแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์จำนวนมากนี้ได้ ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นดูเปล่งปลั่ง
มีหนึ่งในพฤติกรรมเหล่านี้ที่คุณแอบทำบ้างหรือไม่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่น่าอาย (ถ้าไม่ทำให้ใครเห็น) และแม้จะดูยี้ในสายตาผู้อื่น แต่กลับเป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไม่น่าเชื่อ
ที่มา brightside