นักวิทยาศาสตร์แนะนำว่าในช่วงการออกกำลังกายนั้นควรดื่มน้ำ 150-250 มล. ทุกๆ 15-20 นาที (ขึ้นอยู่กับชนิดกีฬาที่ออกกำลังกาย) เพื่อเป็นการรักษาสมดุลของอุณหภูมิในร่างกาย
และหากคุณออกกำลังกายแล้วดันดื่มน้ำไม่เพียงพอ 9 ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับร่างกาย…
1. คุณจะกินในปริมาณที่เพิ่มขึ้น
หากรู้สึกหิวให้ดื่มน้ำ 1 แก้วและหากยังหิวอยู่ให้ลองหาอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพรองท้อง
2. อ่อนเพลียมากขึ้น
หากร่างกายสูญเสียของเหลว 1-2% จะทำให้ความตึงเครียด และความเหนื่อยล้าเพิ่มมากขึ้น และยังส่งผลให้คุณอารมณ์ไม่ดี
3. มีอาการบวมเกิดขึ้น
หากออกกำลังกาย แล้วดื่มน้ำไม่เพียงพอจะมีอาการบวมเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้มีรอยคล้ำใต้ตาเกิดขึ้น
4. หัวใจทำงานหนักมากขึ้น
หากของเหลวมีปริมาณลดลง ความเข้มข้นของเลือดจะมีมากขึ้น และหลอดเลือดจะหดตัวลงเพื่อช่วยประหยัดน้ำ ส่งผลให้หัวใจทำงานหนักขึ้นเพราะต้องพยายามดันเลือดให้ผ่านหลอดเลือดแคบๆ จะส่งผลให้เกิดโรคความโลหิตสูง รวมทั้งโรคเกี่ยวกับหัวใจตามมา
5. มีอาการปวดกล้ามเนื้อ
การดื่มน้ำที่ไม่เพียงพอจะทำให้อาการปวดกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายอยู่ยาวนานขึ้น
6. ทำให้ประสิทธิภาพการออกกำลังกายลดลง
นักวิทยาศาสตร์บอกว่า หากคุณสูญเสีย 5% ของของเหลวในร่างกาย ประสิทธิภาพการออกกำลังกายจะลดลง 30% ถ้าคุณสูญเสีย 2% ของของเหลวจะทำให้ร่างกายไม่เกิดการเผาผลาญไขมัน หรือไม่มีการเติบโตของกล้ามเนื้อ
7. มีสารพิษในร่างกาย
ในระหว่างการออกกำลังกายร่างกายจะเกิดกระบวนการกำจัดสารพิษผ่านการไหลเวียนเลือด และขับออกผ่านเหงื่อ หากดื่มน้ำไม่เพียงสารพิษจะยังตกค้างอยู่ในร่างกาย
8. ร่างกายขาดน้ำ
หากออกกำลังกายให้ร่างกายเสี่ยเหงื่อ แล้วร่างกายไม่ได้รับน้ำในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพตามมา
9. มีริ้วรอยเพิ่มมากขึ้น
ร่างกายต้องการของเหลวในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อช่วยในระบบไหลเวียนเลือด หากดื่มน้ำไม่เพียงพอนอกจากจะกระทบระบบไหลเวียนเลือดแล้ว ออกซิเจนที่ลดลงจะทำให้คอลาเจนลดลงไปด้วย จึงทำให้ผิวเกิดริ้วรอยในที่สุด
รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมออกกำลังกาย และหมั่นดื่มน้ำให้เพียงพอต่อปริมาณที่ร่างกายต้องการกันนะ
ที่มา: brightside