การที่เรานั่งเป็นเวลานานๆ และนั่งทุกวันอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรม (office syndrome) ซึ่งโรคนี้มักเกิดกับคนวัยทำงานที่ต้องหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ
สำหรับใครที่มีปัญหาปวดหลัง หรืออาการออฟฟิศซินโดรม วันนี้เราก็มีท่าบริหารกล้ามเนื้อหลังง่ายๆ มาฝาก ลองทำตามกันดูนะ
1. ท่า Butterfly wings
ประโยชน์: ท่านี้จะเน้นบริหารกระดูกส่วนคอ การแก้ไขกระดูกสันหลัง และทำให้โลหิตไหลเวียนดีขึ้น
วิธีปฏิบัติ: (ท่าเริ่มต้น) นั่งบริเวณขอบเก้าอี้ หลังตรง กางขากว้างเท่าช่วงไหล่
จากนั่งประสานมือวางไว้บริเวณท้ายทอย งอข้อศอกและล็อคแขนไว้ด้านข้างหลังคอ ดึงข้อศอกไปด้านหลังให้ได้มากที่สุด หายใจเข้า ยืดแขนออก และดันหน้าอกไปด้านหน้า หายใจออก จากนั้นกลับไปที่ท่าเริ่มต้น จากนั้นแอ่นหลังและดันหน้าอกขึ้นอีกครั้ง ทำซ้ำ 5 ครั้ง
2. ท่า Cat cow
ประโยชน์: ช่วยลดอาการปวดหลังช่วงล่าง และช่วยการแก้ไขตำแหน่งของกระดูกสันหลังส่วนเอว
วิธีปฏิบัติ: (ท่าเริ่มต้น) นั่งบนเก้าอี้ ยืดหลังตรง วางมือบริเวณหัวเข่า
หายใจเข้า ยกไหล่ขึ้นเล็กน้อย ยืดหน้าอก ก้มหน้าลง หายใจออก ก้มโค้งหลังไปด้านหน้า และก้มหน้าลงพับคอให้ติดหน้าอก ทำซ้ำ 8 ครั้ง
3. Chair twist
ประโยชน์: ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังช่วงล่าง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
วิธีปฏิบัติ: (ท่าเริ่มต้น) นั่งบนเก้าอี้ ยืดหลังตรง วางเท้าลงบนพื้น
หายใจเข้า ยืดกระดูกสันหลัง ในขณะที่หายใจออกให้บิดเอวไปด้านหลังของเก้าอี้ วางมือบนเก้าอี้ แต่ไม่ต้องบิดไหล่ ค้างไว้ 30 วินาที หายใจเข้า-ออก 5 ครั้ง แล้วเปลี่ยนข้าง ทำซ้ำแต่ละข้าง ข้างละ 3 ครั้ง
4. โน้มตัวไปด้านข้าง (Side bend)
ประโยชน์: ช่วยให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น ช่วยยืดกล้ามเนื้อหน้าท้อง และกล้ามเนื้อหน้าอก
วิธีปฏิบัติ: (ท่าเริ่มต้น) นั่งบนเก้าอี้ และยืดหลังตรง
วางมือบนเก้าอี้ ผ่อนคลายไหล่ จากนั้นใช้มือข้างใดข้างหนึ่งยกขึ้นด้านบนแล้วโน้มตัวไปฝั่งตรงข้าม ยืดแขนให้ตึง ทำซ้ำแต่ละข้าง ข้างละ 10 ครั้ง
5. ท่า Chair pigeon
ประโยชน์: ผ่อนคลายกล้ามเนื้อเท้า กลุ่มกล้ามเนื้อบริเวณบั้นท้าย (glutes) และยืดกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง
วิธีปฏิบัติ: (ท่าเริ่มต้น) นั่งบนเก้าอี้ ยืดหลังตรง วางเท้าขวาบริเวณเข่าซ้าย
โน้มตัวไปด้านหน้า ยืดตัวโน้มไปด้านหน้าให้ตึงถึงสะโพก ยืดหลังให้ตรง ค้างไว้ 30 วินาที หายไใจเข้า-ออก 5 ครั้ง จากนั้นให้สลับข้าง ทำซ้ำขาแต่ละข้าง 2-3 ครั้ง
อย่าลืมบริหารบ่อยๆ เพื่อสุขภาพที่ดี และห่างไกลจากอาการออฟฟิศซินโดรมกันนะ
ที่มา: brightside