แน่นอนว่าการเดินทางมีหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบนั้นให้รสชาติสัมผัสที่แตกต่างกันไป นั่งเครื่องบินก็ถึงที่หมายรวดเร็วทันใจได้ชมทัศนียภาพบนท้องฟ้า
นั่งรถบัสหรือรถยนต์ก็เพิ่มชั่วโมงไปอีกแต่ได้เห็นวิวข้างทางอย่างเต็มตา แล้วการนั่งรถไฟล่ะจะให้อรรถรสที่แตกต่างได้หรือไม่??
ซึ่งรูปแบบการเดินทางชนิดนี้หลายคนมักเบือนหน้าหนีเพราะเชื่องช้าไม่ทันการ แต่วันนี้เราจะพาไปทัวร์การเดินทางด้วยรถไฟข้ามภูมิประเทศที่สวยสด และบางทีอาจเปลี่ยนความคิดของคุณไปอย่างสิ้นเชิงก็ได้
1. Bernina Express จากสวิตเซอร์แลนด์สู่อิตาลี
รถไฟ Bernina Express ทำให้ผู้โดยสารได้มองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของเทือกเขาแอลป์ และความตระการตาของทิวทัศน์จากประเทศอิตาลี
2. ห้องอาหาร Golden Eagle ของ Trans-Siberian Express ในรัสเซียและมองโกเลีย
ห้องอาหาร Golden Eagle บนรถไฟ Trans-Siberian Express เน้นการตกแต่งด้วยกำมะหยี่สีแดงและลวดลายไม้
3. Rocky Mountaineer ในบริติชโคลัมเบีย และอัลเบอร์ต้า แคนาดา
เส้นทางรถไฟที่งดงามที่สุดของแคนาดามี 4 เส้นทางดำเนินการโดย Rocky Mountaineer มอบทัศนียภาพสุดลูกหูลูกตาของเทือกเขา Canadian Rockies ซึ่งมองเห็นได้จากหน้าต่างกระจกกว้างบานใหญ่ที่ทำให้คุณตื่นเต้นได้ทุกนาที
4. เส้นทาง Jungfrau Railway ที่สวิตเซอร์แลนด์
Jungfrau Railway เส้นทางรถไฟสู่สถานีบนยอดเขาเป็นสถานีรถไฟสูงที่สุดในยุโรป ทำให้คุณมองเห็นเทือกเขาแอลป์ได้อย่างชิดใกล้
5. Queen Victoria’s Saloon ที่พิพิธภัณฑ์รถไฟแห่งชาติ ในยอร์ค สหราชอาณาจักร
การเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์รถไฟแห่งชาติในยอร์ก ประเทศอังกฤษทำให้คุณสามารถเรียนรู้วิธีที่เหล่าราชวงศ์เคยเดินทางบนรางรถไฟ
6. Tauern Railway ในออสเตรีย
Tauern Railway นำเสนอเส้นทางที่สวยงามผ่านหุบเขา Gastein Salzburg และ Möll Valley ในเมือง Carinthia
7. The Canadian จากโตรอนโตถึงแวนคูเวอร์
เส้นทางที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของแคนาดาครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และสามารถชมทัศนียภาพแบบธรรมชาติของภูเขา เช่น Mount Robson ยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาร็อกกี้ของแคนาดา
8. North Norfolk Railway ในนอร์ฟอล์ก ประเทศอังกฤษ
หรือรู้จักกันในชื่อ “Poppy Line” North Norfolk Railway เดินทางจากเมืองชายฝั่งของ Sheringham ไป Holt
9. 7 Train ในนิวยอร์กซิตี้
ครอบคลุมจาก Main Street ใน Flushing, Queens ถึง 34th Street-Hudson Yards ใน Manhattan เมื่ออยู่เหนือพื้นดินเส้นทางพิเศษนี้มอบทิวทัศน์ที่สวยงามมากของแมนฮัตตัน และมุมมองที่ไม่เหมือนใครผ่านย่าน Queens
10. Train Suite Shiki-Shima ประเทศญี่ปุ่น
เป็นหนึ่งในรถไฟที่หรูหราที่สุดของประเทศญี่ปุ่นและสามารถรองรับผู้โดยสารเพียง 34 คนในแต่ละครั้ง Shiki-Shima Suite มีราคาประมาณ 8,480 เหรียญต่อคน
11. Jacobite บนสะพาน Glenfinnan Viaduct ประเทศสกอตแลนด์
ได้รับการขนานนามว่า ‘Hogwarts Express’ รถไฟไอน้ำ Jacobite วิ่งจาก Fort William ไปยัง Mallaig และเป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์ Harry Potter
12. Tren a las Nubes ใน Argentine Northwest
เป็นเส้นทางคดเคี้ยวน่าหวาดเสียว อยู่บริเวณภาคกลางตอนบนของประเทศอาร์เจนตินา วิวเมื่อมองลงไปข้างล่างนั้นน่ากลัวสุดจับใจเลยล่ะ
13. PeruRail ที่มาชูปิกชู ประเทศเปรู
รถไฟแห่งนี้เป็นหนึ่งในสองเส้นทางที่จะพาคุณวิ่งจากเมือง Cuzco ไปยัง Aguas Calientes ซึ่งเป็น Base ของมาชูปิกชู
14. เส้นทาง Kandy ไปยัง Ella ในศรีลังกา
เดินทางผ่านทัศนียภาพอันงดงามของสองฝากฝั่งในประเทศแห่งชาอย่างศรีลังกา เส้นทางนี้จะเข้าสู่สถานที่ต่างๆ เช่น สะพาน Nine Arches และผ่านป่าลึกลับของภูมิภาค
15. Denali Star จาก Anchorage ไปยัง Denali National Park
การเดินทาง 12 ชั่วโมงนี้ข้ามผ่านภูมิทัศน์ที่สวยที่สุดในโลก โดยมีทิวทัศน์ตระการตาของเทือกเขาเดนาลีประกอบฉากในวันที่อากาศปลอดโปร่ง
16. Pride of Africa ในแอฟริกาใต้ ซิมบับเว แซมเบีย และแทนซาเนีย
Pride of Africa เสนอประสบการณ์การเดินทางแบบหรูหราพร้อมกับบรรยากาศก่อนสงครามผ่านทุกภูมิภาคของแอฟริกาใต้
17. Montenvers–Mer de Glace ในฝรั่งเศส
ผ่านเทือกเขาแห่ง Mont Blanc และหุบเขา Trient Valley ไปชมทิวทัศน์อันงดงามของเทือกเขาแอลป์ฝรั่งเศส และแวะไปชมกำแพงน้ำแข็งใสของถ้ำน้ำแข็งที่เกิดขึ้นจริง
ครั้งต่อไปหากมีเวลาสักนิดลองเลือกเดินทางด้วยรถไฟดู เพราะนั่นคือโอกาสที่คุณจะได้ทัศนาภูมิทัศน์ทั้งสองฝากฝั่งอย่างเต็มตา
ที่มา buzzfeed