โลโก้คือสิ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์การค้า ซึ่งในบางโลโก้อย่างเช่น ไนกี้ มันประสบความสำเร็จมากพอจะให้ความหมายแทนชื่อแบรนด์ได้เลยทีเดียว
นอกเหนือจากการเป็นตัวแทนแบรนด์ โลโก้ชื่อดังระดับโลกที่เราพบเห้นอยู่บ่อยๆ ยังแฝงไปด้วยความหมายที่ซ่อนเอาไว้ในสี รูปทรง และลักษณะ ซึ่งคุณอาจไม่เคยสังเกตเห้นหรือคาดคิดมาก่อนว่าสิ่งเหล่านั้นจะแฝงความหมายที่ลึกซึ้งเอาไว้
วันนี้เราจะพาคุณไปตามหาความลับของแบรนด์ที่ซุซ่อนเอาไว้ภายใต้โลโก้เหล่านี้กัน
1. Hyundai
คุณอาจคิดว่าโลโก้นี้ออกแบบมาจากตัว H ในชื่อ Hyundai แต่ในความเป็นจริงแล้วมันคือรูปแบบตัวแทนของคนสองคนที่กำลังจับมือกัน
2. Adidas
ชื่อ Adidas มาจากชื่อผู้ก่อตั้ง Adolf Dassler โลโก้ของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่โดยรวมยังคงคอนเซป์เดิมคือ แท่ง 3 แท่งที่รวมกันเป็นรูปสามเหลี่ยม สิ่งนี้คือสัญลักษณ์ของภูเขาซึ่งจะแสดงถึงความท้าทายที่นักกีฬาทุกคนต้องเอาชนะ
3. Sony Vaio
ตัวอักษรสองตัวแรกของโลโก้ Sony Vaio ทำเป็นคลื่นซึ่งหมายถึงสัญลักษณ์อะนาล็อก ในขณะที่สองตัวสุดท้ายคล้ายกับตัวเลข 1 และ 0 นั่นคือสัญลักษณ์ของสัญญาณดิจิทัล
4. Amazon
โลโก้ของ Amazon ดูเหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษ แต่กลับมีความหมายลึกซึ้ง เพราะมันได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงปรัชญาของบริษัท ลูกศรสีส้มคล้ายกับรอยยิ้มมาจากการที่บริษัทต้องการให้ลูกค้าพึงพอใจ นอกจากนี้การที่ลูกศรยืดระหว่างตัวอักษร ‘A’ และ ‘Z’ หมายถึงการที่บริษัทจะ ขายสินค้าทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้ (‘จาก A ถึง Z’)
5. Baskin-Robbins
พื้นที่สีชมพูในส่วน “BR” ของโลโก้นี้ คือหมายเลข 31 ซึ่งเป็นจำนวนรสชาติของไอศกรีมที่ Baskin-Robbins เคยขายและได้รับความนิยม
6. Toyota
คุณอาจคิดว่าโลโก้ของบริษัทรถยนต์รายนี้ถูกออกแบบมาจากคาวบอยที่ใส่หมวก แต่จริงๆ แล้วมันถูกสร้างมาจากการสะกดชื่อของบริษัท
7. Continental
Continental เป็นผู้ผลิตยางรถยนต์ชื่อดังของโลก โลโก้ของพวกเขาถูกออกแบบให้ 2 ตัวอักษรแรกหมายถึงล้อรถยนต์
8. Formula 1
ถ้าสังเกตดีๆ คุณจะพบเลข 1 ตรงพื้นที่สีขาวระหว่างโลโก้ทั้งสอง นอกจากนี้แถบสีแดงในโลโก้ยังแสดงออกถึงความเร็วที่รถ Formula 1 สามารถทำได้
9. Pinterest
ไม่มีอะไรซับซ้อนแต่เป็นการออกแบบที่แยบคายอย่างมาก เพราะโลโก้ของ Pinterest หมายถึงเข็มหมุดที่ปักยึดสิ่งต่างๆ เหมือนกับที่ Pinterest ปักหมุดสิ่งที่คุณสนใจบนโลกอินเทอร์เน็ต
10. Beats
Beats คือผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงในประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาใช้โลโก้ที่มีตัวอักษร “B” และมีรูปร่างคล้ายกับคนสวมหูฟัง
11. Toblerone
Toblerone เป็นบริษัทช็อกโกแลตที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในเมือง Bern ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเงาที่ฉายอยู่บนเขาในโลโก้คือรูปของหมี สัญลักษณ์ของเมือง Bern ที่บางครั้งก็ถูกเรียกกันว่าเมืองแห่งหมี
12. BMW
ผู้คนมักคิดว่า โลโก้ BMW เป็นสัญลักษณ์ของใบพัดแบบหมุนของเครื่องบินซึ่งสอดคล้องกับประวัติของเทคโนโลยีการบินในช่วงต้นของบริษัท แต่ในความจริงแล้วมันถูกสร้างมาจากส่วนหนึ่งของธงบาวาเรียซึ่งเป็นพื้นที่ในประเทศเยอรมนี ถิ่นกำเนิดของบริษัทนี้
13. LG
โลโก้ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศเกาหลีใต้ มีภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของใบหน้าของมนุษย์ซึ่งหมายถึงความเป็นมนุษย์และความสัมพันธ์กับลูกค้ากับบริษัท
14. Coca-Cola
ในช่องว่างระหว่างตัวอักษร “O” และ “L” คุณจะสามารถเห็นธงเดนมาร์กได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญที่ บริษัทยังคงใช้สิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการตลาดในประเทศสแกนดิเนเวีย
15. Pepsi
อาจฟังดูเป็นเรื่องยากเหลือเชื่อ แต่มันคือความจริงที่ Pepsi จ่ายเงินกว่าหนึ่งล้านเหรียญเพื่อสร้างโลโก้พิเศษนี้ ซึ่งเป็นการระดมไอเดียของสิ่งพิเศษหลายอย่างเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สนามแม่เหล็กของโลก ทฤษฎีสัมพัทธภาพและอัตราส่วนทองคำ นักออกแบบได้อธิบายว่าโลโก้นี้ยังอ้างอิงถึง Mona Lisa, Parthenon และแม้แต่ René Descartes สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน ยังหมายถึงธงชาติอเมริกันอีกด้วย
ไม่น่าเชื่อว่าในโลโก้ชิ้นเล็กๆ จะซ่อนความหมายที่ลึกซึ้งและมีที่มาที่ไปได้มากมายขนาดนี้ และเชื่อได้เลยว่าแบรนด์อื่นๆ เองก็ต้องมีความหมายพิเศษซ่อนอยู่ในสินค้าหรือบริการเพื่อบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของพวกเขาแน่ๆ
ที่มา : brightside.me
อ่านต่อเลย..
