ไม่มีใครอยากป่วย โดยเฉพาะโรคที่รักษาให้หายขาดได้ยากอย่างมะเร็ง แถมยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนในการเตือนล่วงหน้าอีกต่างหาก สิ่งที่คุณสามารถทำได้ คือเฝ้าสังเกตอาการและหยุดพฤติกรรมเสี่ยงต่อไปนี้
กินน้ำตาลมากเกินไป
คุณอาจเคยได้ยินว่าการกินน้ำตาลที่มากเกินไป มักจะพ่วงมากับโรคโรคอ้วน โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และตอนนี้มันเป็นหนึ่งในสาเหตุการเกิดมะเร็งด้วย
จากการศึกษาที่ทำที่ศูนย์มะเร็งมหาวิทยาลัยเทกซัสเท็กซัส พบว่า ปริมาณน้ำตาลที่สูงในอาหารตะวันตก อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม นอกจากนี้ระดับน้ำตาลในหนูทดลองทำให้มีการเติบโตของเนื้องอกเพิ่มขึ้น
การดื่มเครื่องดื่มร้อน
การศึกษาเกี่ยวกับอุณหภูมิของเครื่องดื่มพบว่าเครื่องดื่มร้อนๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหาร จากทฤษฎีคือ อุณหภูมิสูงทำให้เกิดการระคายเคืองต่อหลอดอาหารซึ่งอาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสารก่อมะเร็งในหลอดอาหาร
ถ้าคุณเสพติดการดื่มกาแฟในตอนเช้าและไม่อยากดื่มเครื่องดื่มแบบอื่นๆ ลองลดปริมาณการกินลงก็สามารถช่วยได้
รับประทานเนื้อสัตว์แปรรูป
เนื้อสัตว์แปรรูปที่พูดถึงนี้ คือ เนื้อสัตว์ที่ถูกรักษาด้วยความเค็มหรือรมควันเพื่อให้มีอายุนานขึ้น มีการศึกษาที่พบว่า เนื้อสัตว์เหล่านี้เป็นสารก่อมะเร็งต่อมนุษย์ที่เมื่อรับประทานติดต่อกันนานๆ อาจทำให้เกิดเป็นความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ถึง 18%
การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
แอลกอฮอล์มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่การดื่มเข้าไปมากๆ ทำให้ส่งผลเสียในด้านความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งและโรคอื่นๆ ได้
ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อแอลกอฮอล์ถูกทำลายลงในระบบทางเดินอาหารมันจะผลิต acetaldehyde ซึ่งเป็นสารเคมีที่เป็นพิษ และยังก่อให้เกิดรูปแบบของออกซิเจนที่มีปฏิกิริยาซึ่งสามารถทำลายดีเอ็นเอ นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังลดความสามารถในการสลายตัวและดูดซับสารอาหารของร่างกายและสามารถเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมได้
ทำงานกะกลางคืน
อาจยังไม่มีผลวิจัยที่แน่นอน แต่การศึกษาบางส่วนพบว่าการทำงานกะกลางคืนจะทำให้เกิดการหยุดทำงานของ circadian และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งรวมถึงการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันและการอักเสบจะลดลงอีกด้วย
แม้ว่าคุณจะสามารถเปลี่ยนตารางชีวิตได้ แต่การนอนให้เพียงพอในเวลาที่พอเหมาะจะเป็นผลดีกับสุขภาพมากกว่า
ไม่ออกกำลังกาย
ตามรายงานของสถาบันมะเร็งแห่งชาติอเมริกาพบกว่า การไม่ออกกำลังกายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอ้วน และมะเร็ง
เนื่องจากการออกกำลังกายหรือการเคลื่อนไหวร่างกายทำให้มีออกซิเจนและการไหลเวียนของเลือดไปสู่กล้ามเนื้อและอวัยวะต่างๆ ซึ่งช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์และเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดของเสีย จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
น้ำหนักตัวมากเกินไป
อัตราโรคอ้วนยังคงเพิ่มขึ้นในอเมริกาและเป็นสิ่งที่คนจำนวนมากต้องตระหนักถึง
ตามที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติอเมริกา โรคอ้วนนำไปสู่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของมะเร็งหลอดอาหาร ตับอ่อน ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เต้านม ไต และมะเร็งต่อมไทรอยด์
มีการพบว่าในสตรีที่มีน้ำหนักเกินโดยเฉพาะเซลล์ไขมันสามารถเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกและมะเร็งเต้านมได้
มีเพศสัมพันธ์ด้วยการใช้ปาก
human papillomavirus หรือที่เรียกว่า HPV เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา
การศึกษาพบว่า 7% ของชาวอเมริกัน มีเชื้อ HPV ในช่องปาก แม้ว่ามีเพียง 1% ที่จะทำให้เกิดเป็นมะเร็งในบริเวณคอและลำคอหรือที่เรียกว่ามะเร็งคอหอยส่วนปาก
HPV ยังทำให้เซลล์ผิดปกติและอาจส่งผลให้เกิดมะเร็งหากไม่ได้รับการรักษา ยังไม่มีการวิจัยเกี่ยวกับวิธีการป้องกันการติดเชื้อ HPV ในช่องปาก แต่การใช้ถุงยางอนามัยและสุขภาพฟันที่ดีจะลดโอกาสในการเพิ่มขึ้นของเชื้อ
ทานอาหารเสริมมากเกินไป
การกินอาหารเสริมไม่ได้ส่งผลดีเสมอไป มีการศึกษาพบว่าการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มากเกินไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อมะเร็งเพิ่มขึ้น ผุ้เชี่ยวชาญแนะนำว่าอาหารเสริมควรใช้เพื่อเติมในสิ่งที่ร่าางกายขาดแคลนและทำให้เกิดสมดุลในร่างกาย
หากคุณเริ่มมีอาการที่เข้าข่าย อาจถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมซะใหม่และหาเวลาไปตรวจเช็คกับทางคุณหมอผู้เชี่ยวชาญก่อนจะลุกลามเป็นเรื่องใหญ่ การตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก เพราะคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะป่วยวันไหน หากเจอตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้รักษาได้อย่างทันท่วงที
ที่มา : www.rd.com