หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบในงานศิลปะและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การค้นหาสัญลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ รวมถึงรหัสลับที่แฝงตัวในงานวัตถุหรือภาพเขียนทั้งหลาย นี่อาจจะทำให้คุณรู้สึกสนใจและอยากร่วมค้นหารหัสลับเหล่านี้ไปพร้อมกับเรา
คุณอาจเคยได้ยินว่านอกจากจะเป็นศิลปินที่หาตัวจับยาก Da Vinci ยังเป็นนักดนตรีมือดีอีกด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้คนอาจจะยังไม่เคยรู้ คือเขาได้ซ่อนบทเพลงเอาไว้ในภาพ “The Last Supper” รวมถึงรหัสลับที่แฝงอยู่ภายใต้เเววตาของ “Mona Lisa”
เราจะพาไปชม 14 งานศิลปะชื่อดังที่ถูกซุกซ่อนรหัสลับเอาไว้ มาดูกันว่าคุณจะมองออกมั้ยว่ามีความหมายอะไรแฝงไว้กับภาพแสนสวยเหล่านี้บ้าง?
ภาพ ” Ambassadors” โดย Hans Holbein
ภาพวาดเสร็จสมบูรณ์ในปี 1533 คุณอาจสังเกตเห็นภาพของหัวกะโหลกที่บิดเบี้ยวและแฝงตัวอยู่บนพื้นระหว่างชายสองคนในภาพ
บางคนเชื่อว่าหัวกะโหลกคือสัญลักษณ์แทนวลีภาษาละติน ที่ว่า “memento mori” ซึ่งแปลว่า “จำไว้ว่าคุณจะต้องตาย” ว่ากันว่า Memento mori เป็นถ้อยคำที่ผู้ว่าจ้างให้วาด Jean de Dinteville (ผู้ชายคนทางซ้าย) ต้องการจะให้สื่อในภาพของเขา
ภาพ “Madonna with Saint Giovannino” โดย Domenico Ghirlandaio
ภาพนี้ถูกจัดแสดงอยู่ที่ Palazzo Vecchio ในเมืองฟลอเรนซ์ เป็นเวลาหลายปีที่มีการโต้เถียงกันในหมู่ผู้เชี่ยวชาญว่าภาพเงารางๆ ที่อยู่เบื้องหลังพระแม่มารีนั้นคือภาพของอะไรกันแน่ นักวิชาการจำนวนมากเชื่อว่ามันคือ UFO ของมนุษย์ต่างดาว
ภาพวาดบนเพดานของโบสถ์ Sistine ที่เรียกกันว่า “Creation of Adam”
ภาพนี้ใช้เวลาวาดให้แล้วเสร็จถึง 4 ปี ฝีมือของจิตรกรเอก Michelangelo ว่ากันว่า บริเวณรอบๆ ผ้าคลุมของพระเจ้า คือรูปร่างของสมองมนุษย์ มีการตีความกันว่าทั้งนี้เนื่องจาก Michelangelo เชื่อว่าพระเจ้าสร้างสมองมนุษย์ให้มีความซับซ้อนและน่าอัศจรรย์ แม้ข้อถอเถียงนี้จะยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ก็สร้างความสนใจในวงการศิลปะอย่างกว้างขวาง
ภาพ “The Last Supper” โดย Leonardo Da Vinci
Leonardo Da Vinci ขึ้นชื่อเรื่องการซ่อนรหัสลงในงานเขียนของเขา นี่เป็นหนึ่งใน “รหัส Da Vinci” ที่เป็นที่สนใจจากผู้คนมากมาย เมื่อนักดนตรีชาวอิตาเลียนพบว่า ถ้าเขาถอดรหัสจากผ้าปูโต๊ะและมือของเหล่าอัครสาวก จะพบกับโน้ตเพลงที่ถูกซ่อนเอาไว้
ภาพ “Café Terrace at Night” โดย Vincent Van Gogh
ภาพนี้วาดขึ้นในปี 1888 บางคนเชื่อว่า Vincent Van Gogh ได้บรรจุความเคารพที่มีต่อ Da Vinci ด้วยการวาดภาพ “Café Terrace at Night” ซึ่งมีลูกค้าในคาเฟ่12 คน (เช่นเดียวกับ 12 อัครสาวก) และบริกรที่ยืนอยู่กลางภาพก็มีลักษณะเหมือนพระเยซู
ภาพ Bacchus โดย Michelangelo Merisi da Caravaggio
Bacchus (หรือที่เรียกว่า Dionysus) คือเทพเจ้าแห่งไวน์ของกรีก Caravaggio ซ่อนภาพของตัวเองไว้ในเงาสะท้อนของเเก้วไวน์ ในปี 1922 การสังเกตนี้ถูกพบครั้งแรกหลังจากเวลาผ่านไป 300 ปี แต่แล้วเรื่องนี้ก็ถูกลืมเลือนและถูกค้นพบอีกครั้งในปี 2009 ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น
ภาพ “Scheveningen Sands”
ภาพนี้ถูกวาดขึ้นในศตวรรษที่ 17 ก่อนที่ภาพนี้จะถูกฟื้นฟูที่พิพิธภัณฑ์ Fitzwilliam Museum ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไมคนในภาพต้องไปยืนมุงอยู่ที่ริมทะเล จนกระทั่งระหว่างการบูรณะภาพ มีคนสัเกตเห็นภาพเหมือนชายคนหนึ่งกำลังลอยกลางอากาศและในที่สุดครีบของวาฬก็เผยออกมา
หนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมภาพของวาฬจึงถูกทาสีทับคือในสมัยศตวรรษที่ 18 ถึงต้นศตวรรษที่ 19 การวาดภาพซากสัตว์ไม่ใช่เรื่องที่ได้รับการยอมรับในช่วงเวลานั้น
มุมมองของรูปปั้น “David”
นอกจากจะเป็นจิตรกร Michelangelo ยังเป็นปฏิมากรที่ประสบความสำเร็จอีกด้วย รูปปั้น “David” ที่มีชื่อเสียง มองดูเผินๆ คือชายหนุ่มรูปงามที่มีใบหน้าสงบ แต่ถ้าคุณมองใบหน้าของเขาให้ดีๆ จะพบว่าใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความโกรธ กระวนกระวายและกลัดกลุ้ม มีเหตุผลที่สนับสนุนความคิดนี้คือเส้นเลือดที่แขนซึ่งเกิดจากการเกร็งตัวและคิ้วที่ขมวดมุ่น ว่ากันว่า เป็นเพราะรูปปั้นนี้สร้างขึ้นในช่วงเวลาที่ David ต่อสู้กับ Goliath
ภาพ The fresco โดย Giotto
สามารถเข้าชมได้ที่มหาวิหาร St Francis ในเมือง Assisi ภาพของใบหน้าที่ถูกซ่อนไว้ในหมู่เมฆ ถูกค้นพบในปี 2011 ประมาณ 700 ปีหลังจากภาพนี้เสร็จสมบูรณ์ โดยนักประวัติศาสตร์ศิลป์ Chiara Furgoni ผู้สังเกตเห็นใบหน้าของซาตานในหมู่ก้อนเมฆ
ภาพ “Netherlandish Proverbs” ของ Pieter Brugel
ภาพนี้มีสุภาษิตกว่า 100 บทร้อยเรียงอยู่ในนั้น ตัวอย่างเช่น ภาพของปลาใหญ่กินปลาเล็ก คนตาบอดเดินนำทางให้กัน(เตี้ยอุ้มค่อม) และสุภาษิตอื่นๆ อีกมากมายที่ยังใช้ในปัจจุบัน
ภาพ “Mona Lisa” โดย Leonardo Da Vinci
หนึ่งในภาพที่ลึกลับที่สุดในประวัติศาสตร์ นอกจากรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะแฝงความนัย สมาชิกของคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติอิตาลียังรายงานว่า เมื่อส่องกล้องจุลทรรศน์ดูจะพบกับตัวอักษร LV ที่ดวงตาของ Mona Lisa นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นหมายเลข 72 บนซุ้มประตูด้านหลัง
ภาพ “Garden of Earthly Delights” โดย Hieronymus Bosch
นักศึกษาวิทยาลัยชื่อ Amelia ได้สังเกตเห็นเสียงเพลงที่ถูกซ่อนอยู่ในภาพนี้และบันทึกเอาไว้โดยตั้งชื่อว่า “600-years-old butt song from hell”
ภาพ “The Arnolfini Portrait” โดย Jan van Eyck
“Andolfini” เป็นหนึ่งในภาพวาดที่ถกเถียงกันมากที่สุดเลยทีเดียว มีความคิดเห็นเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่รองเท้าแตะไปจนถึงการวางตำแหน่งของมือของผู้หญิง รวมถึงภาพสะท้อนในกระจกเงาซึ่งผู้คนเชื่อว่าคือตัว Van Eyck นั่นเอง เนื่องจากลายเซ็นของเขาสามารถถอดความได้ว่า “Jan van Eyck was here” (Jan van Eyck อยู่ที่นี่ )
“Young Woman Powdering Herself” โดย Georges Seurat
ภาพวาดนี้คือหญิงสาวในความลับของ Seurat เธอชื่อ Madeleine Knobloch หญิงสาวที่เขารักมากจนถึงกับวาดตัวเองลงไปในภาพนี้ด้วย แต่เห็นได้ชัดว่าเขาคงจะเอาให้เพื่อนดูและได้รับความคิดเห็นว่ามันไม่ค่อยเข้าท่า ดังนั้น Seurat จึงปกปิดมันไว้
ความลับในโลกศิลปะยังมีมากมายและอาจถูกค้นพบได้ในวันที่เทคโนโลยีก้าวล้ำไปข้างหน้า และภาพวาดรวมถึงรหัสลับเล่านี้ยังตอกย้ำความอัจฉริยะของศิลปินในอดีตได้เป็นอย่างดี
ที่มา : www.thisisinsider.com