มีข่าวลือมากมายและเรื่องราวที่หลากหลายเกี่ยวกับมหานครอันหรูหราของมหาเศรษฐีชาวอาหรับผู้นอนอยู่บนกองทอง สวมเครื่องเพชร นั่งบนเรือยอชต์เก๋ไก๋ และ เลี้ยงเสือชีตาห์แทนแมว
ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึงดูไบ เมืองแห่งบ่อน้ำมันและมหาเศรษฐีผู้รวยล้นฟ้า กับเรื่องราวที่ถูกเล่าขานกันมาต่างๆ นานา แต่ถามว่าจริงทุกเรื่องหรือเปล่า? ตอบเลยว่าไม่ใช่!!
ก็เหมือนกับทุกที่ในโลก เมื่อเป็นที่รู้จักและมีการเล่าลือ เรื่องราวต่างๆ ก็อาจจะถูกบิดเบือนไปบ้าง วันนี้เราเลยมีภาพ “ข่าวปลอม” ในดูไบมาฝากให้ได้รับชมกัน
15. ดูไบเป็นเมืองหลวงของมหาเศรษฐี
ในโลกนี้มีมหาเศรษฐีอยู่มาหมายก็จริง แต่มีเพียงระดับพันล้านแค่ 20 คนที่อาศัยอยู่ในดูไบ (เช่นเดียวกับเศรษฐี “ขี้อาย” หลายๆ คน ที่ไม่ชอบแสดงตัว) ในความเป็นจริงเมืองหลวงของมหาเศรษฐีในโลกคือกรุงปักกิ่งและนิวยอร์ก
14. ไม่มีความยากจนในดูไบ
เมื่อพิจารณาจากแรงงานข้ามชาติ ด้วยอัตราเงินเดือนของคนงานเฉลี่ยอยู่ที่ $ 200 – $ 350 (ประมาณ6,000 – 12,000 บาท) เมื่อเทียบกับค่าครองชีพที่สูงมากแล้ว อาจกล่าวได้ว่าที่นี่คือหนึ่งในดินแดนที่มีคนยากจนมากที่สุด
13. ดูไบเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงดูเด็กๆ
ผู้อพยพส่วนใหญ่มักจะทิ้งเด็กไว้ในประเทศเพราะไม่สามารถจ่ายค่าเล่าเรียนได้ การเรียนในโรงเรียนของรัฐมีค่าใช้จ่าย 100,000 ดอลลาร์ต่อเวลา 11 ปี (ประมาณ 3.2 ล้านบาท) นอกจากนี้สภาพอากาศที่ร้อนแบบรุนแรงยังทำให้เด็กๆ ไม่สามารถมีพัฒนาการได้อย่างสมบูรณ์เพราะแทนที่จะได้ออกไปเล่น พวกเขามักใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องปรับอากาศ
12. ดูไบเป็นประเทศ
ความจริงแล้ว ดูไบเป็นเพียงเมืองในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่ไม่ใช่เมืองหลวง (เมืองหลวงคืออาบูดาบี) อย่างไรก็ตามดูไบเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดเมืองหนึ่ง
11. ไม่มีแอลกอฮอล์ในดูไบ
ที่ดูไบมีการอนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิม หากคุณมีบัตรพิเศษหรือวีซ่านักท่องเที่ยว คุณสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในเกือบทุกโรงแรม รวมถึง ไนท์คลับและบาร์ โดยปกติสถานบันเทิงยามค่ำคืนเหล่านี้มักจะตั้งอยู่ในโรงแรมและมีมากกว่า 500 แห่งในดูไบ!!
10. ไม่มีการว่างงานในดูไบ
ความจริงนี่เป็นเรื่องธรรมดาเหมือนที่อื่น เพราะชาวต่างชาติที่ไม่มีวีซ่าทำงานจะถูกถูกเนรเทศกลับภายใน 30 วัน และในปัจจุบัน ประชาชนที่นี่สามารถเปลี่ยนการทำงานได้เพราะการได้รับการศึกษาระดับสูงขึ้นซึ่งเป็นบริการฟรี (จ่ายโดยรัฐบาลของ UAE)
9. ดูไบเป็นเมืองที่สะอาดทางระบบนิเวศ
เนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของประชากร จึ่งก่อให้เกิดการขาดแคลนที่อยู่และแหล่งน้ำ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในภูมิประเทศที่เป็นธรรมชาติ อันเนื่องมาจากวัตถุทางสถาปัตยกรรม การไม่มีระบบการจัดการขยะแบบรวม และปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น
8. ดูไบมีฤดูร้อนและอากาศดีอยู่เสมอ
ความจริงแล้วในดูไบช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน มีอุณหภูมิสูงถึง 48 องศาเซลเซียส (นี่ยังไม่รวมความชื้นที่สูงและแสงแดดที่เจิดจ้าอีกนะ) ท้องฟ้าในประเทศนี้มีสีเทาเนื่องจากมีฝุ่นละอองอยู่ในอากาศ เพราะฉะนั้น เรื่องที่จะมีอากาศดีที่แจ่มใสลืมไปได้เลย
7. ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะพัฒนาดูไบให้เป็นอย่างทุกวันนี้ได้
UAE มีความสามารถที่น่าทึ่งในหารพัฒนา และดูไบเป็นเมืองที่ใช้เวลาน้อยที่สุดในการพัฒนาขึ้นแบบไดนามิก และสร้างความตะลึงให้กับทั่วโลกด้วยนวัตกรรมความสำเร็จด้านการเงิน เทคโนโลยี และการท่องเที่ยว
6. ตำรวจในดูไบใช้รถยนต์สุดหรูเท่านั้น
ทั่วดลกอาจเข้าใจว่าตำรวจที่ดูไบขับขี่แต่ Lamborghinis และ Bentleys แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณจะได้พบกับรถตำรวจที่มีอย่างหลากหลาย เช่น BMWs, Audis และแม้แต่ Toyotas เนื่องจากมีถสปอร์ตจำนวนมากที่นี่ ทำให้ตำวจต้องมีรถที่เร็วกว่าไว้ไล่จับผู้ร้าย
5. ในดูไบทุกอย่างเป็นเรื่องอัตโนมัติ
แม้ว่าเทคโนโลยีจะมีอยู่แทบทุกที่ในเมืองนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะมีโรบอตมาเดินแทนที่ตำรวจ เพราะอย่างไรก็ตาม ที่นี่ก็ยังมีบางระบบที่ยังไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างเช่นระบบน้ำที่มีท่อเล็กๆ ซึ่งหากเกิดการอุดตันก็อาจจะทำให้ติดขัดได้ทั้งเมือง
4. เสือชีตาห์และสิงโตเป็นสัตว์เลี้ยงในดูไบ
การมีสัตว์ป่าเฉพาะบางชนิดไว้ในครอบครอง ถือเป็นการละเมิดกฎหมายในดูไบ ถ้าคุณออกนอกบ้านไปกับเสือชีตาห์หรือสิงโตทะเลคุณอาจถูกจำคุกเป็นเวลา 6 เดือนและต้องจ่ายค่าปรับอีกอื้อซ่า เพราะงั้น ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงมักเลี้ยงแมวมากกว่าเนื้องจากพวกเขาไม่ค่อยชอบสุนัข
3. ดูไบเต็มไปด้วยตึกระฟ้า
ที่นี่สามารถแบ่งชั้นคนรวยกับชาวบ้านธรรมดาได้อย่างง่ายดายด้วยตึกระฟ้าที่มีความสูงถึง 163 ชั้นที่มีอยู่น้อยนิด กับตึกเก่าๆ ที่ชาวบ้านอาศัยอยู่จำนวนมาก
2. ชาวอาหรับส่วนใหญ่และชาวพื้นเมืองอาศัยอยู่ในดูไบ
ประมาณ 25% ของประชากรในดูไบเป็นชาวอินเดีย คนในท้องถิ่นมีเพียง 9% เท่านั้น ซึ่งโดยมากมักจะเป็นแรงงานอพยพจากปากีสถานและบังคลาเทศ คนเหล่านี้มักทำงานในสถานที่ก่อสร้างและในโรงงาน อีก 91% ของประชากรที่เหลือเป็นผู้คนจากประเทศอื่นๆ
1. ความมั่งคั่งของดูไบเกิดขึ้นจากน้ำมัน
ก่อนการผลิตน้ำมัน คนดูไบเริ่มต้นจากธุรกิจดำน้ำหาไข่มุกและประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ เครื่องประดับไข่มุกเพิร์ลจากอ่าวเปอร์เซียได้รับการชื่นชมและมีมูลค่าสูง ที่นี่ยังมีสถานที่พิเศษสำหรับประวัติความเป็นมาของมุกในศูนย์วัฒนธรรมและพิพิธภัณฑ์แห่ง UAE ทุกแห่ง
หลายเรื่องก็เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายเลยใช่มั้ยล่ะ!! เหรียญยังมีสองด้าน แน่นอนว่าเรื่องราวที่เราได้ฟังมาก็อาจจะเป็นเรื่องเพียงด้านเดียวก็ได้ จริงมั้ย?
ที่มา : brightside.me