หนึ่งในเทศกาลสำคัญแห่งปีที่ทุกคนต่างก็รอคอยใกล้จะมาถึงแล้ว ช่วงเวลาที่ทั้งเมืองจะสว่างไสวไปด้วยแสงไฟ เสียงเพลงและรอยยิ้มพร้อมกับของขวัญ!! ใช่แล้ว นั่นก็คือคริสต์มาสนั่นเอง
อเมริกาเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ในช่วงเทศกาลจะมีการจัดงานที่ทั้งสวยและเต็มไปด้วยแสงสี และมีเมืองเล็กๆ หลายแห่งที่สามารถประดับประดาบ้านเรือนได้สวยงามกว่าที่อื่นๆ จนถึงกับต้องบอกต่อเลยล่ะ เราไปดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง
เมือง Solvang รัฐเเคลิฟอร์เนีย
ตั้งอยู่ในเขตเมือง Santa Barbara’s wine ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านเดนมากที่สวยที่สุด ถนนสายหลักในเมืองเรียกว่า Copenhagen Drive จะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเส้นทางคริสต์มาสที่สว่างไสวไปด้วยต้นไม้ประดับและแสงไฟ นอกจากนี้ยังมีขบวนพาเรดและการแสดงต่างๆ เรีงรายมาให้คุณได้รับชม
เมือง Boothbay รัฐ Maine
ที่ Boothbay รัฐ Maine ซึ่งจะส่องสว่างในช่วงเทศกาลวันหยุดด้วยแสงไฟในงานเทศกาล Boothbay Festival of Lights ที่จะเปลี่ยนเมืองชายทะเลให้ประดับประดาไปด้วยแสงไฟกว่า 500,000 ดวงสวนและอาคารจะถูกตกแต่งให้สวยงามเตรียมพร้อมการมาถึงของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีขบวนพาเรดเรือที่จะล่องผ่านลำน้ำไปพร้อมกับแสงสีเสียงที่ครบครัน และจะยิ่งพิเศษมากกว่านั้นถ้าหากคุณได้ชมมันไปพร้อมๆ กับหิมะที่โปรยปราย
เมือง Bernville รัฐเพนซิลวาเนีย
นี่เป็นหมู่บ้าน Kozier Christmas Village ที่ Bernville รัฐเพนซิลวาเนียที่ตลอด 70 ปีที่ผ่านมา หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องการประดับไฟคริสต์มาสที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวและผู้คนทั้งใกล้และไกลเดินทางมาเยี่ยมชม ภาพสะท้อนในทะเลสาบของงานเทศกาลยิ่งเพิ่มความอัศจรรย์ในให้กับผู้ที่ได้พบเห็น และทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในเมืองที่ผู้คนโปรดปรานมากที่สุดในอเมริกา
เมือง Leavenworth รัฐวอชิงตัน
เมืองLeavenworth รัฐวอชิงตัน เป็นเมืองเล็กๆ ภูเขาที่มีจิตวิญญาณแห่งคริสต์มาส เมื่อดวงไฟนับล้านถูกจุดขึ้นในช่วงการเฉลิมฉลองคริสต์มาสทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า Village of Lights
มีคอนเสิร์ตม้าลากเลื่อนและร้านค้าที่เต็มไปด้วยเครื่องถ้วยที่ไม่ซ้ำกัน รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่ที่ตกแต่งอย่างสวยงามในช่วงเทศกาลและวันหยุดพักผ่อน
เมือง McAdenville รัฐนอร์ท แคโรรีน่า
ในปีที่ 62 ของเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรไม่ถึง 700 คนนี้ ทุกคนจะร่วมกันเฉลิมฉลองเทศกาลด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ ในวันที่ 1 ธันวาคม มีการเตรียมต้นไม้สำหรับตกแต่งไว้ถึง 400 ต้น รวมถึงไฟและพาเรดที่จะเคลื่อนขบวนโดยเด็กๆ ในท้องถิ่นไปตามถนนเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองพร้อมกับไม้กางเขนที่ส่องสว่างและจิตวิญญาณแห่งคริสต์มาส
เมือง St. Augustine รัฐฟลอลิด้า
คุณอาจคิดไม่ออกว่าเมืองชายหาดที่น่าจะอบอ้าวอย่างฟลอริด้าจะตกแต่งเทศกาลแบบนี้ยังไง ยามค่ำคืนตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายนถึงปลายเดือนมกราคม ที่นี่จะถูกปกคลุมไปด้วยแสงไฟประดับทุกมุมของย่านประวัติศาสตร์ และจะเปิดประตูพร้อมต้อนรับผู้มาเยือนให้ได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามของอาคารที่มีแสงสว่างจากภายในขณะที่นั่งทัวร์รถม้า ผ่านถนนโดยรอบ หรือจะเป็นรถเข็นสุดคลาสสิคก็ได้ ทั้งหมดนี้คือความงามในช่วงคริสต์มาสที่คุณจะต้องหลงใหล
เมือง North Pole อลาสก้า
เมือง North Pole ที่อลาสก้าตั้งอยู่ใกล้กับ Fairbanks และเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของการตกแต่งคริสต์มาสตลอดทั้งปี รวมถึงรูปสลักจากนำแข็งต่างๆ ที่จะถูกประกับประดาไปด้วยแสงไฟ ซึ่งต้องใช้เวลากว่าหกสัปดาห์ในการสร้างมันขึ้นมา
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีหมู่บ้านซานต้าที่ขายของที่ระลึกและมีตู้ส่งจดมายสำหรับให้เด็กๆ ได้เขียนข้อความถึงซานต้าอีกด้วย ไฮไลท์อีกอย่างคือตุ๊กตาซาต้ายักษ์ที่ยืนยิ้มอย่างใจดีอยู่นอกร้าน
เมือง Nantucket รัฐแมสซาชูเซตส์
เกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งของ Nantucket รัฐแมสซาชูเซตส์อาจเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสถานที่ยอดฮิตในช่วงฤดูร้อน แต่ฤดูหนาวแบบนี้ที่นี่ก็ไม่ทำให้นักท่องเที่ยวผิดหวัง
ด้วยการตกแต่งต้นคริสต์มาสกว่า 100 แห่งที่ส่องประกายด้วยไฟคริสต์มาส ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากวันขอบคุณพระเจ้าด้วยพิธีเปิดไฟคริสต์มาสประจำปี นอกจากนี้ยังมีพาเรดซานตาและเหล่านางฟ้าล่องมาในเรือลำน้อยสร้างสีสันให้กับน่านน้ำในยามค่ำคืน
เมือง Branson รัฐมิสซูรี่
ที่นี่ถูกเรียกว่าเป็นภูเขา Ozark แห่งคริสต์มาส ในงานเฉลิมฉลองที่รวมถึงพาเรด Holly Jolly Christmas Light ซึ่งจะมาพร้อมกับเพลงพิเศษ และต้นคริสต์มาสยักษ์ภายในเมือง Silver Dollar City สวนสนุกสไตล์ยุค 1880 พร้อมไฟคริสต์มาสหกล้านดวงในสวนสาธารณะ เป็นสถานที่ที่เหมาะจะมาชมไฟและร่วมกิจกรรมแสนสนุกที่มีให้อย่างครบครัน
เมือง Santa Claus รัฐอินเดียน่า
ที่นี่เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีชื่อเสียงของความมีชีวิตชีวาในช่วงเทศกาลคริสต์มาส บ้านเรือนและอาคารต่างๆ จะถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงาม และสร้างสรรค์ รวมไปถึงการใช้ไฟคริสต์มาสจนได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่ง Land of Lights ที่สวยที่สุดในอเมริกา
เมือง Carver รัฐแมสซาชูเซตส์
สำหรับสุดยอด Winter Wonderland ต้องยกให้กับเทศกาลคริสต์มาสและการประดับไฟที่สวนสนุก Edaville Family Carver ในแมสซาชูเซตส์ ซึ่งในงานจะมีแสงไฟสว่างกว่า 18 ล้านดวงทั่วทั้งสวน รวมทั้งหมู่บ้านในช่วงวันหยุดด้วย
และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถไฟต้องไม่พลาด การนั่งรถไฟคริสต์มาสไม่ จำกัดรอบด้วยตั๋ว Edaville Express ซึ่งจะให้คุณได้นั่งรถไฟประมาณ 45 นาทีไปยัง Santa’s Workshop พร้อมคุกกี้และช็อกโกแลตร้อน ซึ่งกิจกรรมที่ว่ามาทั้งหมดนี้จะเริ่มขึ้นหลังวันขอบคุณพระเจ้า
เทศกาลใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว ใครที่ยังไม่ได้วางแผนกับช่วงวันหยุดยาวที่กำลังจะมาถึงรีบเตรียมตัวและหาที่หมายเพราะโอกาสพิเศษประจำปีแบบนี้ ในขณะที่ทั่วโลกกำลังสว่างไสวและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เราก็ไม่อยากให้คุณพลาดความสุขนั้นด้วย :)
ที่มา : www.rd.com