บางครั้งชื่อเสียงของนักท่องเที่ยวตัวป่วนก็ทำให้หลายๆ ประเทศมีมาตรการจัดการปัญหาที่น่าปวดหัวเหล่านี้อย่างเข้มงวดและส่งผลกระทบต่อคนในประเทศเดียวกันในวงกว้าง
ในปี 2017 ที่ผ่านมา มีการแชร์เรื่องราวพฤติกรรม “ไม่น่ารัก” ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมากที่สุดปีหนึ่ง และไม่ใช่แค่ในเอเชีย แต่นักท่องเที่ยวที่ทำตัวไม่น่ารักมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก และเรื่อราวที่พวกเขาทำบางครั้งก็ก่อให้เกิดความเสียอย่างหนัก
ลองอ่านเรื่องราวเหล่านี้แล้วคุณจะนึกสงสารเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและเข้าใจว่าพวกเขาจะต้องปวดหัวกันสักเเค่ไหน
นักท่องเที่ยวคนหนึ่งได้ทำให้วัตถุโบราณอายุกว่า 800 ปีของพิพิธภัณฑ์เสียหาย เพียงเพราะอยากจะถ่ายรูปให้กับลูกๆ ของเขา
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ Prittlewell Priory นอกเขตกรุงลอนดอน ครอบครัวหนึ่งได้ละเมิดกฎของทางพิพิธภัณฑ์และอุ้มลูกของพวกเขาไปวางไว้ในโลงศพที่ทำมาจากหินทรายอายุ 800 ปี จนทำให้มักแตกหักเสียหาย
ผู้หญิงคนหนึ่งตบเจ้าหน้าที่สายการบินหลังจากที่เธอมาไม่ทันเช็คอินขึ้นเครื่องในเที่ยวบินของเธอ
แม้ว่าขณะเดินทางจะมีเรื่องน่าหงุดเพียงใดแต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่จะใช้เพื่อทำร้ายร่างกายผู้อื่น
ผู้โดยสารคนหนึ่งที่ขึ้นเครื่องบินของ AirFrance จาก Wuhan ประเทศจีนเพื่อไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ถูกกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ขณะที่เธอตบเจ้าหน้าที่หลังพลาดการเช็คอินเพื่อเดินทางกลับในเดือนมิถุนายน หลังเหตุการณ์นั้นเธอถูกจับพร้อมขึ้นรายชื่อแบล็คลิสต์ของสายการบิน AirFrance ในทันที
ผู้หญิงคนหนึ่งทำลายงานศิลปะมูลค่าเกือบ 26 ล้านบาทขณะเซลฟี่ ทำให้นิทรรศการที่จัดแสดงต้องปิดให้เข้าชมไป 3 วัน
นิทรรศการ “Infinity Mirrors” ของศิลปิน Yayoi Kusama จัดแสดงที่กรุงวอชิงตัน ดีซี และแม้ว่ามันจะน่าตื่นตาตื่นใจแค่ไหนแต่ก็ถูกระงับการจัดแสดงเป็นเวลา 3 วัน หลังจากที่หญิงสาวคนหนึ่งถ่ายภาพเซลฟี่จนทำให้ผลงานในนิทรรศการเสียหายซึ่งทั้งหมดนี้มีมูลค่าเกือบ 26 ล้านบาทเลยทีเดียว
นักท่องเที่ยวคนหนึ่งขว้างถุงมือใส่ Queen’s Guard ในกรุงลอนดอนเพื่อให้เขาขยับ
เป็นที่รู้กันดีว่า Queen’s Guard ทุกนายในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จะต้องยืนเข้าเวรอย่างอดทนและทำหน้าที่ตลอดเวลา นักท่องเที่ยวคนหนึ่งจึงพยายามก่อกวนเขาด้วยการโยนถุงมือใส่ทำให้ได้ถูกตำหนิในทันทีจาก Beefeater (ชื่อตำแหน่ง) พร้อมกันนั้น Beefeater ยังได้บอกด้วยว่า
“กองทัพอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องมงกุฎ ไม่ได้อยู่เพื่อทำให้สาธารณชนรู้สึกสนุกสนาน”
ก่อนจะเก็บถุงมือคืนให้หญิงสาวคนนั้นไป
นักช้อปในประเทศจีนทำกำไลหยกแตกหลังช็อคเมื่อรู้ว่ากำไลชิ้นนั้นราคาถึง 1.4 ล้านบาท
หญิงสาวคนหนึ่งเดินดูเครื่องประดับในร้านจิวเวอรี่ที่ประเทศจีน ขณะกำลังลองกำไลหยกเธอได้ถามราคากับพนักงานในร้านและเมื่อพบว่ามันราคาสูงถึง 1.4 ล้านบาทเธอก็ตกใจจนเป็นลมแม้พนักงานจะพยายามบอกให้เธอใจเย็นๆก็ตาม ผลก้คือเธอทำกำไลอันนั้นแตกและต้องเจรจากับเจ้าของร้านเรื่องค่าเสียหาย
หญิงสาวคนหนึ่งในลอสแอนเจลิสทำงานศิลปะมูลค่ากว่า 6.4 ล้านบาทเสียหาย ขณะถ่ายภาพเซลฟี่
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่วิดีโอในภาพวงจรปิดถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกในงานนิทรรศการครั้งที่ 14 ของศิลปิน Simon Birch ซึ่งเป็นการจัดแสดง “Hypercaine” มงกุฎที่ละเอียดอ่อนบนแท่นวาง หญิงสาวคนหนึ่งได้พยายามถ่ายภาพเซลฟี่กับผลงานศิลปะจนทำให้แท่นจัดแสดงล้มลงและก่อให้เกิดความเสียหายมูลค่ากว่า 6.4 ล้านบาท
เหตุการณ์ผู้โดยสารคนโยนเหรียญลงในใบพัดเครื่องบินเพื่ออธิษฐานขอให้ความโชคดีทำให้เที่ยวบินล่าช้า
หลายคนที่เชื่อโชคลางคงจะเข้าใจดีกว่าการเสี่ยงทายหรือการแก้เคล็ดด้วยการโยนเหรียญนั้นทำให้อุ่นใจ…แต่ไม่ใช่โยนใส่ใบพัดเครื่องบินแบบนี้!!
ผู้โดยสารที่บินจากเซี่ยงไฮ้ไปยังเมืองกว่างโจว ประเทศจีน ทำให้เที่ยวบินที่เธอโดยสารนั้นต้องล่าช้าเนื่องจากการโยนเหรียญเพื่อขอโชค ซึ่งนับว่าโชคดีมากที่สามารถนำเหรียญออกมาได้และไม่มีส่วนใดของเครื่องบินเสียหาย
นักท่องเที่ยวพยายามถ่ายเซลฟี่กับลูกปลาโลมาในสเปนจนเผลอฆ่ามันตาย
นักท่องเที่ยวที่อยู่บนชายหาดในภาคใต้ของสเปนเผลอฆ่าลูกปลาโลมาตายขณะเซลฟี่โดยมีคนเห็นพวกเขายกลูกปลาโลมาขึ้นจากน้ำ
ทีมกู้ภัยทางทะเลมาถึงที่เกิดเหตุประมาณ 15 นาทีหลังจากนั้นแต่ช้าเกินไป ส่วนหนึ่งของสาเหตุการตายมาจากการที่มือของนักท่องเที่ยวอาจจะไปปิดท่อโพรงจมูกหรือการยกมันขึ้นจากน้ำทำให้ระบบหายใจขัดข้องจนสัตว์ช็อคในที่สุด
นักท่องเที่ยวถูกจับหลังถ่ายภาพเปลือยคู่กับวัดในประเทศไทย
นักท่องเที่ยวที่เดินทางทั่วโลกสองคนจากสหรัฐฯ ถูกจับกุมในประเทศไทยหลังจากถ่ายภาพเปลือยที่วัดอรุณราชวรารามในกรุงเทพมหานคร พวกเขาโพสต์ภาพเปลือยใน Instagram “Traveling Butts” (ถูกลบไปแล้ว) รวมทั้งที่ถ่ายในบริเวณวัดและสถานที่ประวัติศาสตร์ในกรุงเทพฯ
หลังจากโพสต์รูปนักท่องเที่ยวถูกกักขังเพื่อปรับทัศนคติเรื่องความเหมาะสมในที่สาธารณะและขึ้นบัญชีรายชื่อตแบล็คลิสต์หลังเดินทางกลับประเทศ
ชายคนหนึ่งเตะและทำลายหินงอกพันปีในถ้ำที่ประเทศจีน
นักท่องเที่ยวชาวจีนคนหนึ่ง ได้เดินทางไปเข้าชมถ้ำในเขต Songtao เขาถูกบันทึกวิดีโอขณะพยายามเตะหินงอกขนาด 20 นิ้วที่มีอายุกว่าพันปีภายในถ้ำหลายครั้งเพื่อให้มันล้มลง ซึ่งเป็นการทำลายและก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักเพราะต้องใช้เวลานับพันปีกว่าที่ธรรมชาติจะสร้างมันขึ้นมาได้อีกครั้ง
ช่วงเวลาท่องเที่ยวคือความสุขและการพักผ่อนของนักเดินทางก็จริง แต่อย่าลืมว่าเป็นช่วงเวลาที่ชาวท้องถิ่นอาจจะต้องเหนื่อยกับความไม่รู้ของคนแปลกหน้าอย่างเราก็ได้ ดังนั้น ก่อนเดินทางควรเตรียมตัวห้พร้อมและทำตัวให้น่ารักเพื่อที่คนอื่นๆ จะสามารถไปเที่ยวได้พร้อมกับการต้อนรับจากคนในท้องที่นะจ๊ะ :)
ที่มา : www.thisisinsider.com