นอกการสอบ TOEIC ที่สามารถนำไปใช้ในการยื่นเพื่อรับทุนการศึกษา หรือรับการพิจารณาเพื่อเข้าศึกษาต่อแล้ว IELTS เองก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบคะแนนที่ใช้ในการวัดทักษะความสามารถกันในวงกว้าง
ก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอเทคนิคการพิชิตข้อสอบพาร์ทฟังของ TOEIC ไปแล้ว
(อ่านได้ที่ : 5 เคล็ดลับดีๆ ของการฝึกพาร์ทฟังเตรียมลุยสอบ TOEIC ให้ผ่านฉลุย ได้คะแนนสูง!!)
มาคราวนี้เรามีทริคง่ายๆ สำหรับการฝึกฝนเพื่อเตรียมตัวสอบในพาร์ทฟังของฝั่ง IELTS กันบ้าง
อย่างที่รู้ๆ กันว่าทักษะการฟังเป็นข้อสอบที่ต้องแข่งกับเวลาและน่ากังวลที่สุดในบรรดาทักษะทั้งหมด ด้วยเหตุนี้เทคนิคที่จะนำมาเสนอให้ในวันนี้จึงมีทั้งการฝึกฝนแบบก่อนทำและระหว่างทำมาแนะนำ เอาล่ะ ไปดูกันเลย!!
วิธีฝึกก่อนทำข้อสอบ
1. พัฒนาทักษะการฟังแบบทั่วไปของคุณซะก่อน
เป้าหมายของการฟัง IELTS คือการทดสอบทักษะการฟัง เพราะฉะนั้นอย่าพึ่งห่วงแต่จพยายามทำคะแนนให้ดี แต่ควรเพิ่มทักษะการฟังเช่นการฟังเพลงภาษาอังกฤษแล้วพยายามจับใจความ หรือการดูหนัง ดูข่าว ดูสารคดีอะไรก็ได้ที่คุณชอบเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้หูและสมองของคุณเข้าใจภาษาอังกฤษได้ไวขึ้น
2. พยายามแปลหัวข้อและคำศัพท์ให้ออก
ในข้อสอบส่วนที่ 3 เกือบทั้งหมดมักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแวดวงการศึกษา เช่น บทสนทนาระหว่างครูกับนักเรียน ดังนั้นหากคุณมีคลังคำศัพท์เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้อย่างเหลือเฟือไว้ในหน่วยความจำ ก็จะช่วยให้สามารถเข้าใจความหมายของรูปประโยคได้ง่ายและเร็วมากขึ้น
วิธีฝึกขณะทำข้อสอบ
3. แบ่งประเภทของคำ
ลองแบ่งคำออกเป็นประเภทต่างๆ เช่นคำนาม กริยา คำคุณศัพท์ แล้วเขียนกำกับไว้ด้านบนของตัวอย่างข้อสอบ จะทำให้คุณสามารถมองความเชื่อมโยงและเทียบไวยากรณ์ได้ง่ายขึ้น
4. ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ต่างๆ ที่ปรากฏในข้อสอบ
พยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่จะมีการบอกเล่าในช่วงต้นการเริ่มบทสนทนาในข้อสอบ (ในกระดาข้อสอบมักไม่ได้เขียนเอาไว้) จับให้ได้ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร จะทำให้คุณเข้าใจส่วนที่เหลือได้ง่ายกว่าเดิม
5. เพิ่มความรอบคอบอีกนิด
จำไว้ว่าคุณจะได้ยินเสียงในการทดสอบเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ในกรณีที่คุณไม่ได้ยินหรือจับใจความบางส่วนพลาดไปอย่าพึ่งสติแตก ให้เน้นที่คำตอที่แน่ใจและได้ฟังข้อมูลมาอย่างครบถ้วนก่อนแล้วจึงไปเดาข้อที่เหลือ เพราะหากสติแตกตั้งแต่ตอนที่หลุด คะแนนอาจจะพังมากกว่าแค่ข้อหรือสองข้อ และในตอนท้ายก่อนส่งคำตอบโปรดเช็คความเรียบร้อยให้รอบครอบเพื่อที่จะให้แน่ใจว่าคุณส่งคำตอบที่ถูกต้องจริงๆ
6. จับตาดูคำศัพท์ที่เป็นตัวช่วย
ลองพยายามจับคำที่เป็นตัวบ่งชี้ อย่างตัวบอกเวลา ตัวบอกประธาน กริยา และกรรม เพื่อให้คุณจับประเด็นได้ว่าในข้อสอบกำลังพูดถึงเรื่องอะไร
7. อย่ารีบใส่คำตอบจนเกินไป
บางครั้งการรีบใส่คำตอบโดยที่ยังฟังคำถามไม่หมดก็ทำให้คนตกหลุมกับดักตายน้ำตื้นกันมานักต่อนักแล้ว เพราะฉะนั้นฟังให้ชัวร์ว่าบทสนทนาต้องการจะสื่ออะไรและคำถามถามว่ายังไงก่อนจะใส่คำตอบ
8. ตรวจข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ก่อนส่งกระดาษคำตอบในแต่ละส่วน คุณจะมีเวลาประมาณ 30 วินาทีในการตรวจสอบคำตอบของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบ ตัวสะกด คำพหูพจน์ และรูปแบบของคำว่าที่เขียนไปถูกต้องหรือไม่ โปรดจำไว้ว่าคำตอบที่เขียนอย่างถูกต้องเท่านั้นจึงจะได้รับคะแนน
9. ลอกคำตอบใส่ในกระดาษคำตอบอย่างถูกต้อง
ในตอนท้ายของการทดสอบการฟัง คุณจะมีเวลาประมาณ 10 นาทีในการถ่ายโอนคำตอบของคุณลงในแผ่นกระดาษคำตอบ และแน่นอนว่าด้วยความรีบหลายครั้งจึงมักจะมีคนลืมใส่คำตอบผิดช่องขาดๆ เกินๆ!! ดังนั้นโปรดเช็คอย่างใจเย็นเพื่อไม่ให้ข้อผิดพลาดนี้ทำให้คุณเจ็บใจในภายหลัง
10. อย่าปล่อยให้ช่องคำตอบว่างเปล่า
แม้ว่าจะไม่รู้คำตอบ แต่การเขียนอะไรสักอย่างลงไปแทนที่จะปล่อยให้ช่องคำถามนั้นว่างก็เป้นวิธีที่ดีกว่าเพื่อให้ได้คะแนน คุณอาจจะใช้การเดาอย่างมีเหตุผลและทบทวนคำถามให้ดีเผื่อว่าจะทำให้คุณคิดคำตอบขึ้นมาได้ และไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อย่า ปล่อย กระ ดาษ ให้ ว่าง เปล่า !!
เทคนิคเหล่านี้สามารถนำไปประยุกต์ได้กับทุกการสอบเลยนะ เพราะภาษาเป็นเรื่องของการฝึกฝนและใช้บ่อยๆ หากอยากเก่งหรือสอบได้คะแนนดีๆ คุณก็ต้องฝึกและพยายามหาความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมอยู่เสมอ เราเอาใจช่วย สู้ๆ :)
ที่มา : ielts-up.com