ตั้งแต่เด็กๆ ที่ส่งจดหมายถึงซานตาคลอสไปจนถึงรูปปั้นสโนว์แมน ตู้โชว์หน้าห้างสรรพสินค้าในช่วงเทศกาลคือช่วงเวลาที่จะมีการประดับประดาของตกแต่งมากที่สุดในนิวยอร์กซิตี้
ตู้โชว์เหล่านี้ จะมีลักษณะเหมือนการจัดงานศิลปะมากกว่าการโฆษณาสินค้า โดยแต่ละปีก็จะมีการจัดด้วยรูปแบบธีมต่างๆ ที่ย้อนไปตั้งแต่ยุค 1870 นับตั้งแต่การจัดแสดงครั้งแรก จนกลายเป็นธรรมเนียมมาจนถึงทุกวันนี้
ตู้โชว์จัดแสดงของห้างสรรพสินค้าถือเป็นประเพณีที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในนิวยอร์กซิตี้
ในขณะที่คุณสามารถเห็นตู้โชว์แบบนี้ได้แทบทุกห้างสรรพสินค้าในแมนฮัตตัน ประเพณีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ย้อนกลับไปในยุค 1870
Macy เป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกที่จัดแสดงตู้โชว์แบบนี้ในนิวยอร์กซิตี้ โดยผู้ก่อตั้งอย่าง R.H. Macy ได้เปิดตัวด้วยภาพเคลื่อนไหวเรื่องแรกของเมซี่เมื่อปี 1899
เมื่อเวลาผ่านไป ตู้โชว์เทศกาลนี้ก็กลายเป็นงานศิลปะที่ซับซ้อนมากขึ้น และเริ่มเป็นงานศิลปะมากกว่าการโฆษณาสินค้า อย่างตู้นี้มีกล่องจดหมายให้เด็กๆ ส่งถึงซานต้าได้
ปัจจุบัน ตู้โชว์เทศกาลที่ห้างสรรพสินค้าในนิวยอร์กซิตี้ อย่าง Macy’s Bloomingdale’s และ Saks Fifth Avenue ต่างก็เป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติมากมาย
Roya Sullivan ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำตู้โชว์เทศกาลของห้าง Macy กล่าวถึงวิธีในการออกแบบการจัดแสดงนี้ว่า
“ฉันมองผ่านภาพถ่ายออนไลน์ อ่านหนังสือเกี่ยวกับเด็กจำนวนมาก และดูแนวโน้มล่าสุดของยุโรปในด้านการจัดจำหน่ายภาพ“
Sullivan และทีมงาน จะเริ่มกระบวนการออกแบบและการเลือกธีมทุกเดือนมกราคม ซึ่งงานนี้กินเวลาเกือบทั้งปี
“เพราะเรามีแขกจากทั่วทุกมุมโลก บางคนก็มาเป็นครั้งแรก และบางคนกลับมาในทุกๆ ปี เรื่องของประเพณีและครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญเสมอ“
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตู้โชว์ได้จัดแสดงในธีมที่หลากหลายเช่น แบบคลาสสิก
แบบเก๋ไก๋
และแบบที่ทันสมัยมากขึ้น เช่นภาพจาก Bloomingdale ในปี 2013 ที่ใช้ธีมที่มีชื่อว่า “All Wrapped Up in Bloomingdale’s” อันนี้เป็นแบบนิวยอร์กซิตี้
แบบจีน
และอิตาลี
ร้านค้าบางก็มีการตกแต่งที่ล้ำหน้าร้านอื่นๆ
ตู้โชว์ไม่ได้เป็นธีมคริสต์มาสอย่างชัดเจนซะทุกครั้ง อย่างเช่น ตู้โชว์ของ Bloomingdale ในปี 2015 ก็ประกอบไปด้วยกระจกส่องทางรูปทรงเรขาคณิตที่สะท้อนถึงความเป็นตัวของตัวเอง
ไม่ว่าการจัดแสดงเหล่านี้จะดูแตกต่างหรือชวนให้นึกถึงตู้โชว์ในช่วงเวลาเกือบ 150 ปีที่ผ่านมา แต่ก็เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่ทำให้นิวยอร์กซิตี้ได้ฉลองวันหยุดพักผ่อนอย่างเพลิดเพลินใจ
ที่มา : www.thisisinsider.com