ในสุนทรพจน์ของ Stephen Hawking ที่มหาวิทยาลัย Oxford ได้กล่าวถึงความอยู่รอดของมนุษยชาติว่าจะสามารถอยู่ได้อีกเพียง 1,000 ปี
ก็เลยมีการคาดการณ์ถึงโลกอนาคตว่าใน 1,000 ปีข้างหน้าโลกของเราจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร บ้างก็ว่าอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่เลวร้าย บ้างก็ทำนายถึงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เราไปดูการคาดเดาที่ถูกรวบรวมมาเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน
มนุษย์จะมีชีวิตอยู่ได้ 1,000 ปี
มหาเศรษฐีกำลังลงทุนด้วยเงินนับล้านดอลลาร์ในการวิจัยเกี่ยวกับการชะลอตัวหรือการหยุดความชรา
ใน 1,000 ปีข้างหน้า เทคโนโลยีทางการแพทย์จะสามารถออกแบบการเยียวยาสำหรับแต่ละองค์ประกอบที่ทำให้เนื้อเยื่อมีอายุมากขึ้น เครื่องมือการแก้ไขยีนที่มีอยู่แล้วอาจจะควบคุมยีนของเราและทำให้มนุษย์สามารถรับมือกับโรคร้ายได้
มนุษย์จะย้ายไปอยู่ยังดาวดวงอื่น
ใน 1,000 ปีนับจากนี้ วิธีเดียวที่มนุษยชาติจะสามารถอยู่รอดได้ก็คือการตั้งถิ่นฐานใหม่ในอวกาศ
ยาน SpaceX มีภารกิจในการ “ช่วยให้มนุษย์กลายเป็นชุมชนบนอวกาศบนดาวเคราะห์ที่หลากหลายด้วยการสร้างเมืองบนดาวอังคาร” ผู้ก่อตั้งบริษัทอย่าง Elon Musk หวังว่าจะมีการเปิดตัวยานอวกาศครั้งแรกในปี 2022 โดยมีเครื่องบิน 4 ลำบินสู่ดาวอังคารภายในปี 2024
มนุษย์จะมีหน้าตาแบบนี้
มีการคาดว่ามนุษย์เกิดการเปลี่ยนแปลงทางรูปลักษณ์อย่างเช่น หน้าผาก จมูก และ จมูกขยายใหญ่ขึ้น และผิวมีสีสันมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาเกี่ยวกับการแก้ไขจีโนมเพื่อให้พ่อแม่สามารถเลือกหน้าตาของลูกที่จะเกิดมาได้
จะมีคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ
ในปี 2014 ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้จำลองสมองมนุษย์ให้มีความถูกต้องแม่นยำ ใน 1,000 ปีนับจากนี้คอมพิวเตอร์จะยิ่งพัฒนาความก้าวล้ำและความสามารถในการคำนวณของสมองและสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้มากมายยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันการใช้คอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจเป็นภัยคุกคามความเป็นส่วนตัวและความมั่นคงสารสนเทศ
มนุษย์จะกลายเป็นหุ่นยนต์
นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรกำลังพัฒนาดวงตาไบโอนิกเพื่อช่วยให้คนตาบอดมองเห็นได้ ในอีก 1,000 ปีข้างหน้า การผสานจิตใจของมนุษย์กับคอมพิวเตอร์จะเป็นการสร้าง superbrain ที่สามารถใช้สมการที่ซับซ้อนและค้นหาอินเทอร์เน็ตได้เกินกว่าใครจะคาดคิด
การสูญเสียกำลังเกิดขึ้น
ภัยพิบัติครั้งล่าสุดได้ขจัดไดโนเสาร์ให้หมดไปจากโลก จากการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้พบว่าอัตราการสูญพันธุ์ของสายพันธุ์ในศตวรรษที่ 20 สูงกว่าที่เคยเป็นมาถึง 100 เท่าซึ่งเป็นผลกระทบจากมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์บางคนกล่าวว่าการลดลงของประชากรมนุษย์ เป็นเพียงหนทางเดียวที่อาจช่วยให้โลกยังคงมีอยู่ต่อไปได้
เราทุกคนจะพูดภาษาเดียวกันทั่วโลก
นักภาษาศาสตร์คาดการณ์ว่า 100 ปีนับจากนี้ 90% ของภาษาต่างๆ จะหายไปเนื่องจากการโยกย้ายถิ่นฐาน
อาคารบ้านเรือนจะประกอบและถอดออกตามคำสั่ง
ในอนาคต มนุษย์มีแนวโน้มที่จะสามารถสร้างโลกเสมือนรอบตัวได้โดยใช้แนวคิดของหมอกยูทิลิตี้ ซึ่งถูกนำเสนอโดยดร. ฮอลล์ ด้วยวัสดุที่เรียกว่า polymorphic ที่สามารถเชื่อมต่อกันจนเป็นรูปร่างตามคำสั่งได้
นาโนเทคโนโลยีจะแก้ปัญหาด้านพลังงานและมลภาวะ
1,000 ปีนับจากนี้ นาโนเทคโนโลยีจะสามารถทำความสะอาดความเสียหายของสิ่งแวดล้อม ทำให้น้ำและอากาศบริสุทธิ์ และกลั่นเอาพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ วัสดุใหม่จะตอบสนองความต้องการเทคโนโลยี การจัดเก็บพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โลกในวันข้างหน้าก็มาจากการกระทำของเราในวันนี้ หากเรามุ่งไปแต่อนาคตโดยไม่สนใจปัจจุบัน ไม่แน่ว่าอนาคตที่เลวร้ายอาจจะมาถึงเร็วกว่าที่คาดไว้ก็ได้
ที่มา : brightside.me