บางครั้ง เวลาที่เราไปตามร้านอาหาร เรามักจะทำตามความเคยชินอย่างการใช้ส้อมม้วนๆ บะหมี่แทนตะเกียบ หรือเทซอสใส่ในถ้วยจนแทบล้น ซึ่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ ถ้าอยู่ที่บ้านเรา ก็คงจะไม่มีใครมองว่าผิดหรือแปลกอะไร แต่ถ้าในกรณีที่เราออกเดินทางท่องเที่ยวแล้วไปทำแบบนี้ในต่างเเดนละก็ อาจจะถูกมองด้วยความไม่พอใจก็ได้
โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีธรรมเนียมข้อปฎิบัติหลายอย่างที่แม้ว่าเราจะมองเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับเมืองที่เข้มงวดในเรื่องระเบียบวินัย อาจจะเป็นเรื่องใหญ่ ทางที่ดีรู้ไว้เพื่อจะได้ทำให้ถูกต้องก็ไม่เสียหายอะไร จริงมั้ย
วันนี้เราเลยมีข้อแนะนำเกี่ยวกับมารยาทหรือข้อปฎิบัติในร้านอาหารญี่ปุ่นมาพื่อเป็นตัวอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่เราอาจจะมองข้ามไปก็ได้ ไปดูกันเลย
1. การเทซีอิ้ว
อย่าเติมทีเดียวแทบเต็มถ้วย ชาวญี่ปุ่นจะแนะนำให้คุณเทลงไปทีละน้อย แล้วค่อยเติมเมื่อต้องการ ทั้งนี้คิดว่าเป็นเพราะป้องกันการกินไม่หมดแล้วจะเสียดายของ
2.การกินขิงดอง
บางคนชอบที่จะใส่ขิงดองลงบนหน้าซูชิแล้วค่อยกินเข้าไปทีเดียวพร้อมๆ กัน ความจริงแล้ว ชาวญี่ปุ่นจะกินซูชิก่อนแล้วค่อยกินขิงตามลงไปในช่วงระหว่างรออาหารจานต่อไป เพื่อช่วยเพิ่มความสดชื่นของช่องปากและเพิ่มรสชาติของอาหารจารก่อนหน้า
3.การใส่วาซาบิ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารรสเผ็ด บางครั้งอาจจะใส่วาซาบิลงไปในอาหารเพิ่มเพิ่มความเผ็ดร้อน ซึ่งนั่นจะทำให้รสชาติดั้งเดิมของอาหารถูกกลบไปหมด ทางที่ดี ควรผสมลงไปในซอสถั่วเหลืองสักเล็กน้อย หรือทาบางๆ บนซูชิ ก้จะเป็นแนวทางที่ดีกว่า
4.การกินซาชิมิ
เป็นธรรมเนียมที่รู้กันว่า อาหารญี่ปุ่นมักจะกินคู่กับตะเกียบ หรือใช้มือ (ไม่นิยมใช้ช้อนส้อม) ดังนั้น กับการกินซาชิมิเองก็ควรใช้ตะเกี่ยวด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ในการจิ้มซอสควรจิ้มแค่ขอบๆ ไม่ควรแช่ลงไปทั้งคำ และที่สำคัญ ควรทานให้หมดในคำเดียวมากกว่าจะกัดเป็นคำๆ
5.การกินซูชิ
ใช้ตะเกียบคีบด้านข้างและให้เฉพาะส่วนหน้าของซูชิจุ่มซอส (ส่วนข้าวไม่ต้อง) เพื่อให้คุณได้ลิ้มรสชาติที่แท้จริงของซูชิ
6.การกินข้าวห่อสาหร่าย
เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ควรใช้ตะเกียบและไม่ควรใช้ช้อนส้อม ในการจิ้มซอสควรใช้แค่ส่วนขอบแตะซอสเพียงนิดเดียว ไม่ควรจุ่มลงไปทั้งชิ้นหรือจุ่มลงไปทั้งสองด้าน เพื่อให้คุณได้รับรสชาติที่อร่อยกำลังดี
แม้จะดูเป็นเรื่องยุ่งยากหรือละเอียดยิบเกินความจำเป็น แต่ก็เพื่อให้คุณได้รับความอร่อยแบบดั้งเดิมที่สมบูรณ์แบบและสามารถเข้าถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลึกซึ้ง
ที่มา : brightside.me